08 กุมภาพันธ์ 2562

สนทนากับพระเจ้า (28) 8/02/2019

 #สนทนากับพระเจ้า (28)

 

พี่ๆน้องๆที่รักแห่งเราทั้งหลาย

เราขอกล่าวความจริงต่อท่านทั้งหลายว่า

 

เหตุใดท่านจึงกล่าว

ขอบพระทัยพระบิดาแห่งจิตวิญญาณ

กล่าวขอบพระทัยเราพระเชษฐา

และกล่าวขอบคุณอาจารย์ผู้สื่อถ่ายทอด

แต่ไม่จริงจังไม่ตั้งใจปฏิบัติตามที่เราบอก

 

ท่านทั้งหลายเป็นผู้เลือกทางพระบิดา

จึงเป็นผู้เดินเข้ามาหาเรา

เพื่อรับฟังคำของเราที่กล่าวตามพระโอวาท

แล้วนำไปปฏิบัติในชีวิตประจำวันให้จริงจัง

อย่างเป็นรูปธรรมที่สุดเท่าที่จะทำได้

เพราะเวลาปฏิบัติการชำระโลกได้เริ่มแล้ว

นั่นเท่ากับว่าเวลาของมนุษย์ก็เหลือน้อยลง

 

นาฬิกาชีวิตบนโลกของท่านทั้งหลาย

ได้เริ่มเดินถอยหลังตั้งแต่วันพิพากษาแล้ว

ทุกคนมีเวลาเท่ากันในการตัดสินใจเลือกว่า

จะชำระจิตสามนึกของตนด้วยตนเอง

หรือจะยอมถูกชำระไปพร้อมกับโลกทั้งระบบ

ด้วยปฏิบัติการทางเท็คนิกของฑูตสวรรค์

ซึ่งจะเน้นใช้มหันตภัยพิบัติเป็นเครื่องชำระ

 

พี่ๆน้องๆที่รักทั้งหลาย

 

แม้ว่าจิตวิญญาณที่มีรายชื่อ

อยู่ในม้วนหนังสือแห่งชีวิตของพระบิดา

ที่ทรงประทานให้ไว้กับเราตั้งแต่แรกนั้น

จะมีแค่เพียง 144,000 รูปธรรมก็ตาม

แต่จำนวน 7 พันล้านรูปธรรมที่มีอยู่จริง

พระองค์ทรงมีพระเมตตาว่า

 

ถ้าใครสามารถปฏิบัติตามพระโอวาทได้

ตามพระประสงค์อย่างจริงจังและตั้งใจ

โดยไม่เหลวไหลโลเล ทำชักเข้าชักออก

ปฏิบัติตามพระโอวาทคำสอนเป็นประจำ

จนนำเข้าไปเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตได้

มิใช่ใส่ใจในพระโอวาทพระบิดาแค่เพียง

เป็นส่วนหนึ่งหรือส่วนเกินของชีวิตเท่านั้น

 

พระองค์จะประทานความรอดให้ท่านผู้ใฝ่ดี

ด้วยการตีตราประทับไว้ที่ตรงหน้าผาก

เป็นมายาลักษณ์รูปสามเหลี่ยมด้านเท่า

ที่ส่วนใหญ่จะมองด้วยตาเปล่าไม่เห็น

อันเป็นสัญลักษณ์ของ #ผู้ได้รับความรอด

ที่จะสามารถเหวี่ยงหมุนไปกับโลก

ในยุคพลังงานใหม่ต่อไปได้อย่างผู้มีชัย

แม้จะมีภัยพิบัติมาผจญก็จักมิสั่นคลอน

 

มนุษย์ที่จะได้รับความรอด

ซึ่งเป็นปลาหายใจด้วยปอดที่จะถูกคัดไว้นั้น

จะถูกนำออกมาจาก "ลม" และ "น้ำ"

เพราะช่างเท็คนิกเห็นว่าลมกับน้ำเข้ากันยาก

จึงหยิบฉวยเอามาชำระโลกในระยะแรกก่อน

คนดีๆที่จะรอดชีวิตได้และคนดีๆที่จะคัดไว้

จะพอมีพื้นที่ให้เหยียบยืนนั่นเอง

 

ลมกับน้ำจึงไม่ร้ายแรงเท่า "ลม" กับ "ไฟ"

ที่แม้ช่างเท็คนิกจะเป็นผู้เชี่ยวชาญแค่ไหน

มันก็เป็นอะไรที่ควบคุมยากยิ่ง

 

ดังนั้น

"ลม" กับ "ไฟ" จึงเป็นเครื่องมือสำคัญ

ที่จะถูกหยิบมาใช้ในแผนปฏิบัติการ

ที่เป็นระยะกลางและระยะปลายสุด

เพราะถ้าไฟไหม้โดยมีลมสนับสนุนแล้ว

 

ไม่มอดไหม้จนหมดเมืองไฟก็จะไม่ดับมอด

ไม่มอดไหม้จนหมดป่าไฟก็จะไม่ไหม้มอด

กว่าไฟจะไหม้มอดกว่าป่าจะมอดไหม้

ผู้คนเป้าหมายกับวัตถุเท็คโนโลยีบนโลก

จักถูกทำลายให้มลายจนสิ้น

 

พี่ๆน้องๆที่รักทั้งหลาย

 

การที่ท่านยังวางเฉยต่อพระโอวาท

ขาดการใส่ใจในการหมั่นเรียนเพียรปฏิบัติ

มันคือการ "เผา" เวลาแห่งโอกาสของตน

ให้หมดสิ้นเปลืองไปอย่างไร้ค่า

เหมือนดั่งธูปที่ถูกจุดวางไว้กลางแจ้ง

ที่จะหดสั้นลงเรื่อยๆหรืออาจดับก่อนเวลา

ทั้งๆที่ปากกับใจปรารถนาจะได้รับความรอด

 

ท่านมั่นใจหรือว่า

บ้านหลังหนึ่งซึ่งถูกสร้างขึ้นบนพื้นดิน

ที่ไม่มีการตอกเสาเข็มเป็นหลัก

บ้านที่ไม่มีหินเป็นฐาน

โดยปล่อยเวลาให้ผ่านไปอย่างไร้ค่า

เมื่อเกิดน้ำท่วมไหลเชี่ยวพัดมา

บ้านนั้นจะทนสั่นไหวอยู่ได้หรือไม่

เพราะปลูกสร้างไว้ไม่ดี

บ้านหลังนั้นย่อมพังลงมาและถูกทำลาย

 

เราจึงขอกล่าวความจริงต่อท่านทั้งหลายว่า

แม้ไม่รู้ว่าตนเองเป็นหนึ่งในแสนสี่หรือไม่

แต่ถ้าในเจ็ดพันกว่าล้านคนบนโลกนี้

ท่านเป็นผู้ที่มีคุณสมบัติพอที่จะเป็น 30%

ของประชาชาติทั้งหมดที่จะถูกคัดไว้ได้

ประตูมิติแห่งโอกาสบานใหญ่

ที่จะทำให้ท่านข้ามผ่านไปสู่โลกยุคใหม่

ก็จะเปิดอ้าออกในทันที

 

เงื่อนไขสำคัญ

ที่ท่านจะเป็น 30% กับเขาคนหนึ่ง

ที่พระองค์จะทรงประทานความรอดให้มีดังนี้

 

1. ครองมหาสติตลอดวัน

จนเป็นธรรมชาติของตนเองได้

คือ รู้สติ มีสติ และใช้สติ

 

2. แสดงปณิธานแห่งนิพพานชัดเจน

โดยมีเป้าหมายสำคัญ คือ การหลุดพ้น

ปฏิบัติบำเพ็ญตนกับทุกคน ทุกที่ ทุกเวลา

จนเป็นธรรมชาติของตนเองได้

คือ รักได้ ให้อภัยเป็น ไม่เห็นแก่ตัว

 

3. พระบิดาทรงมีหมายกำหนดสื่อพระโอวาท

โดยทุกวันนี้มีเป็นประจำแค่เดือนละหนึ่งครั้ง

ต้องสามารถไปเฝ้าฟังด้วยตนเองมิขาดเว้น

โดยมิเห็นการฟังสื่อพระโอวาท

เป็นแค่เพียงกิจกรรมเสริมชะตาชีวิตเท่านั้น

ยกเว้นท่านที่ติดภารกิจสำคัญในบางครั้ง

จักพออนุโลมกันได้บ้าง

 

เพราะการจะได้รับ

รหัสสัญลักษณ์ของผู้รอด

ที่จะทรงประทับให้ตรงหน้าผากนั้น

หลักการสำคัญที่ท่านต้องรู้ก็คือ

เมื่อเฝ้าฟังพระโอวาทหนึ่งครั้ง

ก็จักได้ประทับตราหนึ่งครั้งเช่นกัน

 

การประทับตราซ้ำๆถี่ๆและหลายครั้งเท่านั้น

เครื่องหมายสำคัญทางพลังงานบนหน้าผาก

ที่เป็นรูปรอยสามเหลี่ยมจึงจะปรากฏขึ้นได้

 

ดังนั้น

ความลังเล ไม่แน่ใจ

การไม่รักพระบิดาไม่ศรัทธาเราแท้จริง

ผู้ที่มีคุณสมบัติทางจิตเหล่านี้

แม้จะคอยติดตามเรากันอย่างไร

ก็ยากนักที่หน้าผาก

จะเกิดมายา 3 เหลี่ยมได้

น่าจะเป็นเครื่องหมาย "กากะบาท" มากกว่า

 

4. ต้องมีผลกรรมเหลือติดตัวอยู่ไม่เกิน 30%

ทั้งวิบากกรรมและชะตากรรมรวมกัน

ซึ่งมันจะเป็นความจริงได้นั้น

ทุกวันนับแต่นี้เป็นต้นไป

ท่านก็ต้องไม่หนีกรรม

ท่านต้องยอมรับกรรมนั้นๆอย่างเต็มใจ

โดยท่านต้องไม่ก่อกรรมใหม่เพิ่มขึ้นมาอีก

ขณะที่ท่านต้องแก้ไขกรรมเก่าให้หมดสิ้น

 

วิธีแก้กรรมง่ายๆคือ

ใครเลวมาท่านต้องทำดีตอบ

ใครชั่วมาท่านต้องอโหสิตอบ

 

วิธีตัดกรรมสัมพันธ์คือ

รักให้ได้ ให้อภัยให้เป็น

เมื่อเขาชั่วต่อท่าน

ท่านก็จะต้องไม่ทำชั่วตอบ

เท่านี้เอง...ง่ายดายเสียจริงๆ

 

เอเมน สาธุ

ป.วิสุทธิปัญญา

8-02-2019