04 ตุลาคม 2560

สนทนาประสาจิตจักรวาล 10


#สนทนาประสาจิตจักรวาล

พี่ๆน้องๆที่รักแห่งเราทั้งหลาย
เราขอกล่าวความจริงต่อท่านอีกว่า

นอกจากจิตมนุษย์ของท่าน
ที่สั่นสะเทือนเป็นกิเลส ตัณหา ราคะ
และอุปาทานทั้งหลาย

จะก่อให้เกิดพลังงานจิตด้านลบ
เพื่อทำการผลิตสร้างประจุลบ
ในรูปของอิเล็คตรอนอิสระขึ้นมาใหม่
แล้วเหวี่ยงออกมาทิ้งขว้างไว้ในบรรยากาศ
จนนำมาซึ่งเมฆฝนสกปรกและพายุแม่เหล็ก
ตามที่เราได้กล่าวไว้ในตอนที่ผ่านมาแล้ว

จิตที่สั่นสะเทือนเป็นกิเลสตัณหานั้น
ยังได้ผลิตสร้างขยะในมิติทางพลังงาน
ด้านของจิตวิญญาณผู้เป็นแก่นแท้ขึ้นมาด้วย
เราจะเรียกขยะพวกนี้ว่า #ผลกรรม

"ผลกรรม" เป็นขยะในมิติพลังงานอีกชนิดหนึ่ง
ซึ่งจิตมนุษย์สามารถผลิตสร้างขึ้นมาได้
เมื่อสร้างขึ้นแล้วก็จะเหวี่ยงมันออกมาทิ้งไว้
บนโครงข่ายสนามแม่เหล็กในชั้นบรรยากาศโลก
โดยภายในอนุภาคจะบันทึก "รหัสกรรม" ไว้ด้วย

"รหัสกรรม" เป็นคุณสมบัติทางพลังงาน
อันประกอบด้วย 3 สิ่งที่สำคัญ คือ

1.ชนิดของคลื่นที่จิตสั่นสะเทือน
2.ข้อมูลของเรื่องราวที่มาสาเหตุแห่งกรรมนั้น
ว่าใครเป็นเหตุ เหตุคืออะไร ก่อกรรมอะไรไว้
เกี่ยวกรรมกับใคร เสียสมดุลกันอย่างไร เป็นต้น

3.ผลลัพธ์ที่จักต้องเกิดขึ้น
ต่อผู้ก่อเหตุที่เป็นเจ้าของกรรม (หรือเจ้ากรรม)
ตามกฎแห่งการกระทำนั้นๆ คือ อะไรอย่างไร

ภายในหนึ่งอนุภาคของ "ผลกรรม"
อันเกิดจากการก่อกรรมแต่ละเรื่องราวนี้
จะบันทึกเป็นรหัสกรรม 3 สิ่งนี้ไว้ครบครัน

โดยตลอดชีวิตของใครคนหนึ่ง
ซึ่งยังมิอาจอยู่เหนือกรรมของตนเองได้
เพราะยังตกเป็นทาสกิเลสตัณหาราคะอยู่

ยังก่อกรรมแล้วเกิดกรรมสัมพันธ์ด้านลบ
คือ "เกี่ยวกรรมลบ" กับคนอื่นๆอยู่

ยังก่อกรรมแล้วเกิดกรรมสัมพันธ์ด้านบวก
คือ "เกี่ยวกรรมบวก" กับคนอื่นๆอยู่

อนุภาคของผลกรรมจะถูกสร้างขึ้นไว้
ในลักษณะคล้ายฟองอากาศสีดำ
ที่มันจะพอกพูนเพิ่มทวีขนาดขึ้นเรื่อยๆ
ตราบใดที่คนๆนั้นยังละวางกิเลสตัณหา
เพื่อหยุดสร้างพันธะกรรมกับใครอื่นไม่ได้
มวลของอนุภาคแห่งผลกรรมของท่าน
ในมิติทางพลังงานนั้นมันจะยิ่งโตวันโตคืน

พี่ๆน้องๆที่รักทั้งหลาย

ช่อมวลของอนุภาคแห่งผลกรรมต่างๆนี่แหละ
ที่ท่านทั้งหลายเรียกกันว่า #นายเวร
โดยมีเจ้าของผู้สร้างมันขึ้นไว้คือ #เจ้ากรรม
ซึ่งผู้ที่เกี่ยวกรรมกับท่านไว้ไม่ว่าภพชาติใด
เขาจะรู้ทันทีว่าใครเคยกระทำผิดบาปต่อเขาไว้
โดยใช้ "นายเวร" นี่แหละเป็นประจักษ์หลักฐาน

นอกจากนั้นท่านทั้งหลายยังต้องรู้ว่า
"ผลกรรม" ในรูปของ "นายเวร" ที่ว่านี้
มิใช่ประจุลบอิสระอันเป็นขยะพลังจิต
ที่ช่างเท็คนิกสามารถช่วยจัดการชำระได้
แต่มันเป็นขยะพลังงานที่มิอาจกำจัดได้
ซึ่งใครสร้างมันขึ้นมาคนนั้นต้องรับผิดชอบ

นี่จึงเป็นที่มาของการตายแล้วต้องเกิดใหม่
เพื่อให้มากำจัดขยะผลกรรมที่ตนก่อไว้
เป็นพันธะกรรมกับเพื่อนมนุษย์บางคนอยู่
เพราะพลังงานสูญหายไปไหนไม่ได้
แต่ทำให้มันแตกสลายไร้คุณสมบัติขยะได้
ผู้ร่วมเป็นเจ้าของมันจึงต้องจูงกันมาเกิดใหม่
เพื่อสำแดงความรับผิดชอบ

วิธีกำจัดมันก็คือกลับมาเกิดใหม่
เพื่อร่วมกันเผชิญสถานการณ์เดิมๆในอดีต
ที่เคยตัดสินใจกระทำผิดบาปต่อกันไว้
โดยให้มาตัดสินใจใหม่เสียให้ถูกต้อง
รักให้ได้ ให้อภัยให้เป็น ไม่ก้าวล่วงกลับคืน
อนุภาคกรรมนั้นๆจะแตกสลายทันที

ท่านทั้งหลายต้องรู้ว่าผลกรรมที่ว่านี้
ถ้ามีอยู่เป็นจำนวนมากๆในบรรยากาศโลก
มันก็จะเป็นอุปสรรคในการสื่อสารทางจิต
ระหว่างมนุษย์กับรูปธรรมอื่นๆในจักรวาล

เพราะการสื่อสารทางจิตนั้น
ต้องอาศัยเส้นแรงสนามแม่เหล็กโลก
เป็นเส้นทางคมนาคมเท่านั้น
ถ้ามีมวลรวมของอนุภาคผลกรรม
เกาะติดสั่งสมอยู่บนโครงข่ายจำนวนมากๆ
การสื่อสารทางจิตก็จะไม่สะดวกราบรื่น

ทั้งยังจะเป็นอุปสรรค
ต่อการรู้แจ้งของมนุษย์อีกต่างหากด้วย

น่าเสียดายยิ่งนัก
ที่มนุษย์ส่วนใหญ่ยังดื้อรั้น
ยังเป็นลูกแกะที่จำเสียงเจ้าของไม่ได้

ยังเป็นปลาที่ลั้ลลา...ลั้ลลาไม่กลัวฝนฟ้า
ไม่กลัวบรรยากาศที่แปรเปลี่ยนไป
โดยไม่รู้ว่าปลาที่หายใจด้วยเหงือกนั้น
ยังตายเพราะปรับตัวเข้ากับน้ำใหม่ไม่ได้
ยังตายเพราะน้ำที่ตนอาศัยว่ายวนอยู่
มันหนาวเย็นจนเกินไปได้เหมือนกัน

ตราบที่ยังมีโอกาสอยู่
จงงดสร้างประจุลบจากพลังจิตด้านลบเสีย

จงยุติการก่อกรรมจนเกิดการเกี่ยวกรรมขึ้น
จนยังผลให้เกิดมวลของผลกรรมที่เป็นขยะ
ในลักษณะของเจ้ากรรมนายเวรเสียทันที

จงดำเนินชีวิตด้วยมหาสติ
มีปณิธานแห่งนิพพานให้ชัดเจน
เพื่อกำจัดขยะที่เรียกว่า "นายเวร" ให้สิ้น
อย่างน้อยให้เหลือ 30% จากทั้งหมดที่ก่อไว้
เก็บให้ทันก่อนการชำระโลกคาบสุดท้าย
ช่วง 56 วัน 8 ราตรี จะมาถึง

เพียงเท่านี้...
พระบิดาจะทรงประทานความรอดให้แก่ท่าน
นี่เป็นการพิพากษาที่เที่ยงธรรมแล้ว

เอเมน สาธุ
ป.วิสุทธิปัญญา
4-10-2017