03 สิงหาคม 2560

จิตใต้สำนึก 14


อภิปรัชญา: Pure-meta physics

#มหัศจรรย์แห่งจิตใต้สำนึก


พี่ๆน้องๆที่รักแห่งเราทั้งหลาย

เราจะกล่าวความจริงต่อท่านทั้งหลายว่า


ในการเป็นมนุษย์ซึ่งเป็นคนสองมิตินั้น

การทำงานร่วมกันระหว่าง

จิตสามนึกกับจิตใต้สำนึก

เปรียบได้ดั่งตะเกียบสองข้าง

ที่จะต้องทำงานร่วมกันอย่างสมดุล

โดยตะเกียบแต่ละข้างต้องมีคุณภาพด้วย


ตะเกียบข้างที่เป็นด้านจิตสามนึก

จะเป็นตะเกียบที่มีคุณภาพได้ก็ต่อเมื่อ


1.#จิตหยาบต้องมีมหาสติ กล่าวคือ 


ประการที่หนึ่ง:

ท่านต้องเป็นผู้ #รู้สติ ตลอดเวลา


โดยรู้ว่าปัจจุบันกำลังเกิดอะไรอยู่

รู้ว่าสาเหตุที่มันเกิดขึ้นมานั้นคืออะไร

รู้ว่าต่อไปข้างหน้าจะต้องเผชิญอะไรบ้าง


ประการที่สอง:

ท่านต้องเป็นผู้ #มีสติ ตลอดเวลา


ซึ่งท่านจะต้องฉลาด "รับรู้เพื่อเรียนรู้"

ฉลาดที่จะ "รับรู้เพื่อรับเอา" สิ่งที่มีคุณค่า

โดยไม่ตกหลุมพรางของสิ่งยั่วยุ

จนทำให้จิตใต้สามนึกของท่าน

เกิดการสับสนหลงผิด

แปลความต้องการของจิตสามนึกผิดๆ


เป็นต้นว่าถ้าจิตสามนึก

ตกเป็นทาสการยั่วยุของบางสิ่ง

จนเกิดเป็นความเกลียด ความกลัวขึ้นมา

เจ้าความเกลียดกลัวนี่แหละ

จะถูกส่งเป็นภาษาจิตประสาท (NLP)

ไปสั่นสะเทือนจิตใต้สำนึกให้รับรู้


เนื่องจากจิตใต้สำนึกมีคุณสมบัติสำคัญ

คือ คิดเองไม่เป็น รู้เห็นเองไม่ได้

สงสัยข้อมูลที่รับสื่อมาก็ไม่เป็นอีกด้วย

เมื่อรับรู้อะไรก็จะรับเอาข้อมูลนั้นทันที


ดังนั้น

ถ้าท่านเป็นคนไม่มีสติ

ท่านก็จะไม่ฉลาดที่จะรับรู้บางสิ่ง

ท่านก็จะไม่ฉลาดที่จะรับเอาบางสิ่ง

มันจะยังผลให้ตะเกียบข้างนี้ขาดคุณภาพ

จิตใต้สำนึกก็จะรับเอาข้อมูลที่ผิดนั้นไว้

เพื่อทำการตอบสนองในทันที


หากท่านเกลียดอะไร

จิตใต้สำนึกก็จะน้อมนำสิ่งนั้นมาให้

เช่น เกลียดคนหลอกลวง

ชีวิตท่านก็จะพบเจอแต่คนพรรค์นี้เสมอ


หากท่านกลัวสิ่งใด

จิตใต้สำนึกก็จะนำพาสิ่งนั้นมาหา

เช่น กลัวผีหลอก

ชีวิตท่านก็จะพบเจอแต่เรื่องผีๆนั่นแหละ

เคยสังเกตบ้างไหมว่า

คนกลัวผีมักจะเจอผีหลอกบ่อยๆ

คนที่ไม่กลัวผีก็จะไม่เคยโดนผีหลอกเลย


ประการที่สาม:

ท่านต้องเป็นผู้ #ใช้สติ ตลอดเวลา


โดยท่านจักต้องเป็น "พุทธะ" ขนานแท้

คือ ต้องเป็นผู้ศรัทธาการใช้ปัญญา

เป็นคนมีเหตุผลและใช้เหตุผลเป็น

ด้วยการคิดก่อนคิด 

คิดก่อนพูด 

คิดก่อนทำ

ตาม #ปริญญาโมเดล ว่าด้วย 6 ถูกเท่านั้น


มันจะช่วยให้ท่านไม่เป็นคนโลเล

เดี๋ยวจะเอาอย่างโน้นเดี๋ยวก็จะเอาอย่างนี้

กลับไปกลับมาจนภาษาจิตประสาทสับสน

จนยังผลให้จิตใต้สำนึกทำงานไม่ได้

ซึ่งมันจะไม่มีวันเกิดขึ้นมาได้เลย


พี่ๆน้องๆที่รักแห่งเราทั้งหลาย

การที่มนุษย์เช่นท่านต้องมีมหาสติไว้

ก็เพื่อช่วยให้ #ภาษาจิตประสาท (NLP)

จากการสื่อโดยจิตสามนึกของท่าน

ทำให้ "จิตใต้สำนึก" เข้าใจสถานการณ์

และเข้าใจความต้องการของท่าน

ได้อย่างชัดเจน รวดเร็วและไม่ผิดพลาด


เพราะจิตวิญญาณผู้เป็นตัวตนแก่นแท้

ที่เร้นตนเองอยู่ข้างในร่างกายท่าน

จะไม่อาจสัมผัสรู้ดูเห็นอะไรๆที่เกิดขึ้น

กับเครื่องยนต์แห่งกรรมรูปธรรมมนุษย์

ของตนด้วยตนเองได้เลย

จักต้องรับรู้ผ่านจิตสามนึกเท่านั้น


2.#ท่านต้องมีทักษะด้านการคิด


ท่านจักต้องรู้ว่าความสำเร็จของท่าน

ทั้งความร่ำรวย หรือความสำเร็จด้านใดๆ

ตะเกียบข้างที่จิตหยาบถืออยู่นั้น

มันต้องมีสมรรถนะในการฉลาดคิดด้วย

ซึ่งท่านต้องรู้ว่า "นึก" กับ "คิด" นั้นต่างกัน

คนส่วนใหญ่ยังไม่รู้ความจริงในเรื่องนี้เลย

พอนึกอะไรออก นึกอะไรได้

ก็เข้าใจผิดว่าคิดแล้ว

การพูดผิดทำผิดจึงเกิดขึ้นตลอดชีวิต


การคิดไม่ลึกซึ้งไม่แยบยล

การคิดที่ขาดความรอบคอบ

จึงเกิดขึ้นอยู่เป็นประจำ


ธรรมชาติมิได้ให้ทักษะการคิดแก่ท่าน

ท่านต้องเพียรฝึกฝนทักษะการคิดกันเอง

เพราะการคิดเป็นคุณสมบัติเฉพาะตัว

เป็นความสามารถเฉพาะบุคคล


คนที่ฉลาดคิดคือคนที่ฉลาดใช้สมอง

เนื่องจากการคิดเป็นกระบวนการทำงาน

ระหว่างจิตกับสมองสองซีกร่วมกัน

โดยท่านจะนึกด้วยจิตซึ่งมี 3 นึก

คือ นึกออก นึกเอา และนึกเอง

รวมกันแล้วเรียกว่า #จิตสามนึก นี่แหละ

พอนึกได้นึกดีแล้วก็นำเอาที่นึกไว้นั้น

มาสร้างกระบวนการคิดด้วยสมองต่อไป


ในโปรแกรมอบรมพัฒนาจิตตปัญญา

ด้วยกระบวนการไซโคโชว์ของ "ปริญญา"

ตลอดชั่วโมงการฝึกอบรมนั้น

มีการเน้นฝึกทักษะการคิดที่แท้จริง

ให้แก่ท่านผู้เข้าอบรมในทุกคอร์สอยู่แล้ว


ดังนั้น

ถ้าตะเกียบข้างนี้จะแข็งแรงได้

แสดงว่าท่านจักต้องคิดได้ คิดเป็น 

ฉลาดคิด ฉลาดต้องการ

ที่สำคัญคือ


ต้องคิดให้เป็นรูปธรรมได้

ใคร ที่ไหน อะไร อย่างไร ต้องชัดเจน


ต้องคิดให้เป็นเสียงได้

ต้องคิดให้เป็นกลิ่นได้

ต้องคิดให้เป็นรสชาติได้

ต้องคิดให้เป็นภาษาพูดได้


มิเช่นนั้นแล้วจิตใต้สำนึก

ที่เป็นตะเกียบอีกข้างหนึ่งก็จะอ่อนแอ


ความอ่อนแอของจิตใต้สำนึก

ส่วนมากเกิดจากจิตสามนึกบกพร่อง

ยังผลให้จิตใต้สำนึกสับสน

จนตอบสนองความต้องการผิดพลาด

หรือตอบสนองความต้องการให้ไม่ได้


3.#ท่านต้องใช้แรงบันดาลใจ


แรงบันดาลใจเป็นพลังทางจิตวิญญาณ

ที่ท่านสามารถดึงออกมาใช้ได้เสมอ

โดยไม่ต้องรอให้ตกใจเพราะไฟไหม้

แล้วใช้พลังพิเศษนี้แบกโอ่งน้ำหนีไฟก็ได้


หลักการก็คือให้คิดทำทุกสิ่ง

โดยมุ่งที่ผลสำเร็จเท่านั้น

อย่าคิดทำทุกสิ่งโดยมุ่งที่ผลประโยชน์

หากทำได้มันจะช่วยให้จิตใต้สำนึก

มีพลังอำนาจมากขึ้นนั่นเอง


เพียงเท่านี้

ตะเกียบทั้งสองข้างของท่าน

ก็แข็งแกร่งและมีคุณภาพสูง

สามารถนำความสำเร็จมาสู่ชีวิตท่าน

ในทุกสิ่งที่ต้องการได้แล้ว


ทั้งหมดเป็นเรื่องของ NLP

ที่เข้าใจง่ายเพราะมีอยู่ในตัวท่านแล้ว

จงยึดหลักธรรมะคือธรรมชาติเข้าไว้

อย่าไปทำความวุนวายให้จิตวิญญาณ

จนพาลเพี้ยนเกินงามเพราะงมงายเลย


#เพียงเป็นมนุษย์ให้เป็น

#รู้จักตนเองให้ถ่องแท้

#ใช้จิตตปัญญาให้ชำนาญ

#ถือครองแก้วสองดวงให้มั่นคงไว้


ท่านก็จักเป็นผู้ชนะ 8 ทิศได้แล้ว

สำหรับทิศที่เหลืออีก 2 ทิศ คือ


#ทิศเบื้องบนในฝั่งฟ้าสวรรค์

จงละไว้ให้พระบิดาแห่งจิตวิญญาณ


#ทิศเบื้องล่างคือธรณีโลกนั้น

จงละไว้ให้พระแม่ธรณีที่เปรียบดั่ง

พระมารดาแห่งจิตวิญญาณเถิด


เอเมน สาธุ

ป.วิสุทธิปัญญา

2-8-2017


หมายเหตุ:

**********

หากอยากเรียนรู้ต่อ

ก็ต้องแสดงตน

ยกมือให้เราเห็นอีกแล้วสินะ

จักสมดั่งเป็นศิษย์มีครูผู้เบิกบาน