นี่แน่ะ...ท่านทั้งหลาย
ต่อนี้ไปสนามแม่เหล็กโลก
จะแปรปรวนมากยิ่งขึ้น
ตาที่สามบางคนอาจชำรุด
*นักเรียนที่รักแห่งเราทั้งหลาย
หมู่มาร คือ มนุษย์ก็ได้
จิตวิญญาณแห่งภูติก็ได้
ล้วนเป็นผู้ที่จะทำตนให้เป็นอุปสรรค
ต่อการหลุดพ้นของท่านได้ในทุกๆวิถีทาง
วิธีการของมารที่มักจะใช้กระทำ
ต่อพวกท่านวิธีแรกก็คือ...
*ลวงให้ท่านหลงตัวเองว่าเป็นคนเก่ง
หรือหลอกให้ท่านหลงผิดคิดว่าตนเป็นผู้วิเศษ
ด้วยการเข้าแทรกแซงตรงตาที่สามทันที
ในจังหวะที่ท่านขาดสติ (ไม่ใช่ขาดมหาสติ)
ในช่วงที่สนามแม่เหล็กโลกวิปริตแปรปรวน
โดยหลอกว่าท่านน่ะ "มีตัวรู้" มีญาณทิพย์
ทั้งๆที่ท่านเองไม่ได้ฝักใฝ่ฝึกฝนอะไรมาเลย
จู่ๆมันก็เกิดขึ้นมาเองอย่างเป็นที่อัศจรรย์
โดยมิพักต้องนึกต้องคิดสักนิดเดียว
เจ้ากรรมนายเวรจำพวกนี้
จะเป็นพวกที่ไม่มีเครื่องยนต์แห่งกรรม
จึงทำร้ายท่านด้วยตนเองทางกายภาพไม่ได้
พวกเขาจึงต้องใช้วิธีแบบนี้ คือ
หลอกให้ท่านหลงตัวเองว่า
มีฤทธิ์หรือมีอิทธิปัญญา
ด้วยการใส่ตัวรู้มาให้
ในขณะท่านกำลังเผลอๆเหม่อๆเบลอๆ
ประหนึ่งว่ามันผุดโผล่ขึ้นมาเองนั่นล่ะนะ
นักเรียนลองถามตนเองดูบ้างสิว่า
มีด้วยหรือที่นาของท่านจะได้ข้าว
ถ้าไม่ปลูกข้าว
มีด้วยหรือที่ท่านจะรู้อะไรโดยไม่ต้องเรียนรู้
มีด้วยหรือที่ท่านจะเชี่ยวชาญได้โดยไม่ต้องฝึกฝน
เพราะแม้แต่พรสวรรค์ที่ท่านชำนาญอยู่
ก็ได้จากการฝึกฝนกันมาในภพขาติอดีตกันทั้งนั้น
ดังนั้น...
การที่จู่ๆตัวรู้มันเกิดขึ้นมาเอง
ในยามที่ตาที่สามของมนุษย์เริ่มชำรุดกัน
เพราะสนามแม่เหล็กโลกเกิดอาการวิกฤต
อันมีเหตุจากพายุแม่เหล็ก
ที่ถูกส่งเข้ามาในระบบอย่างเข้มข้นมากนั้น
ต่อนี้ไปนักเรียนจึงต้องไม่เผลอสติ
จนเกิดอาการ "หลงตัวเอง" ขึ้นมาเด็ดขาด
เพราะท่านจะตกเป็นทาสมารไปทันที
โดยมารจะเข้าแทรกแซงตาที่สามของท่าน
แล้วจูงให้ท่านแสดงบทบาทพฤติกรรม
ไปตามบงการของจิตมาร
เป็นต้นว่า....
หลอกให้ท่านกล่าวธรรมะ
แต่เป็นธรรมะแปลกๆ ด้วยคำพูดที่แปลกๆ
เมื่อกล่าวออกมาแล้วคนทั่วไปมักฟังกันไม่รู้เรื่อง
ใครได้ฟังแล้วก็จะรู้สึกว่ายากเกินกว่าจะเข้าใจ
จึงมักจะมีผู้กล่าวตรงกันว่า...
"มันพูด มันเขียนอะไรของมันก็ไม่รู้"
เอเมน สาธุ
กราบพระบาทพระบิดาแห่งจิตวิญญาณ
ป.วิสุทธิปัญญา
19-06-2558