18 ตุลาคม 2564

สนทนาประสาจิตจักรวาล 18/10/2021

สนทนาประสาจิตจักรวาล 

18/10/2021




สนทนาประสาจิตจักรวาล

พี่ๆน้องๆที่รักแห่งเราทั้งหลาย
เราจะกล่าวความจริงต่อท่านทั้งหลายว่า
เรื่องของนิพพานกับการหลุดพ้นนั้น
มันเป็นคนละเรื่องกันมันไม่เหมือนกัน

ดังนั้น
จงอย่ายึดติดความเชื่อเดิมที่ท่านจดจำมา
จากคำสั่งสอนของ คนนำทางตาบอด ไว้
เพราะดูเหมือนพวกเขาจะเข้าใจกันเองว่า
ทั้งสองเรื่องที่ว่านี้นั้นมันเป็นเรื่องเดียวกัน
อันเป็นอีกหนึ่งสาเหตุที่ทำให้พวกเขา
พากัน หลงทางนิพพาน ตราบจนป่านฉะนี้

พวกท่านทั้งหลายจักต้องรู้ว่า
โดยเฉพาะเรื่อง นิพพาน ที่ถูกต้องแล้ว
ความจริงที่จริงแท้ต้องเป็นดั่งนี้ คือ

1.คำว่า "นิพพาน"
เป็น สภาวะหนึ่ง ของ จิตหยาบ เท่านั้น
มิใช่เรื่องของ จิตวิญญาณ แต่อย่างใด
เมื่อจิตหยาบเข้าถึงสภาวะนิพพานได้
จิตวิญญาณของท่านก็ยังอยู่ครบ
ไม่ว่าจะยังเป็นมนุษย์อยู่หรือตายแล้วก็ตาม

2.เพราะ "จิตวิญญาณ" เป็นตัวตนแก่นแท้
ในการมาเกิดเป็น คนสองมิติ คือมนุษย์
โดยมอบอำนาจหน้าที่ให้ "จิตหยาบ"
ซึ่งตนแบ่งภาคออกมาให้ทำหน้าที่แทน

ดังนั้น
ขณะดำเนินชีวิตเป็นมนุษย์อยู่นั้น
จิตวิญญาณจะเร้นตนเองอยู่ข้างใน
โดยมี "จิตหยาบ" เป็นผู้ทำหน้าที่แทนตน
ทั้งในมิติของเนื้อหนังและมิติทางพลังงาน
ซึ่งจิตวิญญาณผู้มอบอำนาจให้ทำแทน
ต้องรับผิดชอบในผลกรรมที่จิตหยาบก่อขึ้น
เสมือนว่าตนเองเป็นผู้กระทำโดยไม่มีข้อแม้

3.ตั้งแต่ภพชาติแรกที่จิตวิญญาณมาเกิดนั้น
ในทุกภพชาติ "จิตหยาบ" จะเป็นผู้รับผิดชอบ
ในการดำเนินชีวิตเป็นมนุษย์แทนเสมอ
เมื่อตายไปในภพชาตินั้นๆเพราะจบสิ้นอายุขัย
จิตหยาบพร้อมขันธ์ 5 ก็จะดับสลายตายไป
พร้อมเครื่องยนต์แห่งกรรมรูปธรรมมนุษย์ด้วย

พอได้โอกาสกลับมาเกิดใหม่ในภพชาติใหม่
จิตวิญญาณก็จะแบ่งภาคตนเองออกมาอีก
เพื่อทำหน้าที่เป็น "จิตหยาบ" ขณะเป็นมนุษย์
โดยให้ทำหน้าที่แทนตนในภพชาติใหม่นั้น
ตามที่พระบิดาได้ทรงออกแบบวางแผนไว้

4.เพราะจิตหยาบไม่เคยมีประสบการณ์
ในการทำหน้าที่เป็นคนสองมิติมาก่อนเลย
เมื่อได้รับมอบหมายให้ทำหน้าที่แทน
จิตหยาบจึงใช้อำนาจที่ตนได้รับถ่ายทอดให้
ทำผิดๆถูกๆจนสับสนกันตั้งแต่ 3 ขวบแล้ว

ตลอดทั้งชีวิตจิตหยาบจึงต้องเรียนรู้
ที่จะเข้าถึงอำนาจทางจิตวิญญาณ
เพื่อทำหน้าที่ทางจิตวิญญาณในสองมิติ
คือมิติโลกทางกายภาพหรือกายสังขาร
กับมิติทางพลังงานด้านจิตวิญญาณให้ลุล่วง

ที่ต้องเรียนรู้เพราะจิตหยาบกับจิตวิญญาณ
ยังไม่สามารถติดต่อสื่อสารกันโดยตรงได้
จึงยังมิอาจสั่นสะเทือนเป็นหนึ่งเดียวกันได้
การจะรู้ว่าจิตวิญญาณต้องการให้ตนทำสิ่งใด
ตนจะต้องใช้อำนาจของจิตวิญญาณอย่างไร
ภารกิจของจิตวิญญาณที่ตนต้องทำคืออะไร
อำนาจของจิตวิญญาณที่ตนได้รับมาคืออะไร
มันจึงเป็นดั่งความลับที่ถูกปิดมิติไว้โดยแท้

อีกทั้งจิตหยาบเองก็ยังไม่รู้ว่า
ตนยังมีจิตวิญญาณซึ่งเป็นตัวตนแก่นแท้
ผู้อาสามาเกิดเป็นมนุษย์เร้นอยู่ข้างในอีกด้วย
เรื่องของเรื่องมันจึงผิดเพี้ยนไปกันใหญ่

นอกจากนั้น
ในทุกภพชาติที่ท่านทั้งหลายเป็นมนุษย์
บ้างก็บกพร่องด้านการเรียนรู้
ด้วยการเลือกเรียนรู้เฉพาะสิ่งที่กูสนใจ
ด้วยการเลือกเรียนรู้เฉพาะครูที่ตนยึดติด
ด้วยการเลือกเรียนรู้จากคัมภีร์เล่มเดียว

บ้างก็ปฏิเสธไม่ใส่ใจที่จะใฝ่เรียนรู้
จำเพาะในเรื่องที่ศาสดาของกูมิได้สอนไว้
เพราะมนุษย์ใช้ความเชื่อความชอบแทนปัญญา
เพื่อพิจารณาตัดสินว่าสิ่งใดควรเรียนรู้หรือไม่
จึงทำให้โลกนี้มีความรู้อยู่ถึง 4 ประเภท คือ

1.ความรู้ที่ตนเองอยากรู้แต่ยังไม่รู้
2.ความรู้ที่ตนเองอยากรู้แต่เรียนรู้มาบ้างแล้ว
3.ความรู้ที่ตนเองไม่นึกอยากที่จะรู้
เพราะไม่รู้ว่าตนจะต้องรู้มันไปทำไม
4.ความรู้ที่ตนไม่รู้ว่าตนยังไม่รู้

ความรู้ทั้ง 4 ประเภทที่กล่าวนี้
จึงกลายเป็นภาระหนักสำหรับท่านทั้งหลาย
ที่จะต้องเรียนรู้มันทุกเรื่องตลอดชีวิตกันแล้ว

พี่ๆน้องๆที่รักแห่งเราทั้งหลาย

คำว่า "นิพพาน" นั้น ที่แท้จริงแล้ว
มันเป็นเพียงสภาวะหนึ่งของจิตหยาบ
ที่สามารถ ดับการเกิดดับ ของทุกสิ่งได้
เช่น กิเลส ตัณหา ราคะ อารมณ์ขยะรายวัน
อุตริอวิชชา อุปาทาน กฎแห่งกรรม
และการดับสังสารวัฏได้ เกิดแล้วไม่ตายอีก
มิใช่ ตายแล้วไม่กลับมาเกิดอีก
ตามความเชื่อของคนนำทางตาบอดนั่น

หากจะกล่าวแบบลัดสั้นกระชับ
เราอาจกล่าวต่อท่านทั้งหลายว่า
วิธีดับการเกิดดับใน "ขยะ" ของจิตหยาบ
จนชำระบาปไถ่บาปให้แก่นแท้ของท่านได้
ก็คือการ "แทรกแซง" กรรมจักรของจิตหยาบ
ให้สั่นสะเทือนขันธ์ 5 เป็นธรรมจักรให้ได้
เพราะถ้าท่านนิพพานขยะในขันธ์ 5 ได้สิ้น
จิตหยาบก็จะว่างไปจากขยะทั้งหลาย
จนมีพื้นที่ให้กับความรักและความฉลาด
เพื่อการสั่นสะเทือนร่วมกับจิตวิญญาณได้

ดังนั้น
ถ้าท่านยกระดับจิตหยาบให้สั่นสะเทือนขันธ์ 5
ซึ่งเป็นอำนาจของจิตวิญญาณได้สำเร็จเมื่อใด
นอกจากจะปฏิบัติภารกิจของจิตวิญญาณ
คือหมุนธรรมจักรเพื่อปันพลังความรักให้โลก
นำไปใช้เพื่อการเหวี่ยงหมุนรอบตัวเองได้
อย่างสมควร "ยกนิ้วให้" ตนเองกันแล้ว
จิตหยาบซึ่งเป็นกลุ่มพลังงาน 189 กลุ่ม
ก็จะถูกถ่ายทอดกลับคืนให้แก่จิตวิญญาณ
ซึ่งจะยังผลให้ตัวท่านกับจิตวิญญาณนั้น
คืนกลับสู่การเป็นตัวตนคนเดียวกันตลอดไป
มิได้แยกกันทำหน้าที่ดังที่เป็นมาในอดีตแล้ว

เราถามว่า...ท่านเข้าใจกันแล้วรึยัง?

ด้วยเหตุนี้เอง
เราจึงกล่าวว่าสภาวะนิพพานของจิตหยาบนั้น
มิใช่การตายหายสูญของจิตวิญญาณ
ที่พวกท่านพยายามจะดับขันธ์ 5 กัน
เพื่อจะดับทุกข์จะดับอัตตาตัวตนให้สิ้น
เพื่อที่ตายแล้วจะได้ไม่กลับมาเกิดอีก
แล้วก็บอกว่าตัวฉันน่ะ "นิพพาน" ได้แล้ว
ทั้งๆที่ยังมีอัตตาตัวตนหลงมิติลอยค้างอยู่
ในดินแดนที่พระบิดามิได้ทรงสร้างไว้

ทั้งๆที่สัจธรรมที่แท้จริงนั้น
ผู้บรรลุธรรมเบื้องต้นก็คือ

1.สามารถใช้ขันธ์ห้าเหวี่ยงหมุนธรรมจักร
แทนกรรมจักรได้เป็นผลสำเร็จ

2.สามารถยกระดับแรงสั่นสะเทือนจิตหยาบ
ให้สูงขึ้นจนเป็นหนึ่งเดียวกับจิตวิญญาณได้
เพื่อใช้จิตวิญญาณขับเคลื่อนกายสังขาร
ทำหน้าที่ใช้เมตตาธรรมค้ำจุนโลกชั่วชีวิต

3.สามารถนิพพานขยะของจิตหยาบ
เพื่อชำระบาปที่เป็น กองทุกข์ ของแก่นแท้
ได้อย่างหมดจดสะอาดบริสุทธิ์
จนพร้อมที่จะนำพาตนเองคือจิตวิญญาณ
หลุดพ้น ออกไปจากโลกและอนันตจักรวาล
เพื่อคืนกลับบ้านแดนสุญตาที่ท่านจากมา
ตามมรรควิถีแห่งจิตจักรวาลเมื่อต้องการได้
มิใช่หลงทางนิพพานอย่างสะเปะสะปะ
จนมองไม่เห็นอนาคตเหมือนดั่งทุกวันนี้

ท่านทั้งหลายจึงต้องรู้ว่า
การเรียนรู้มรรควิถีจิตจักรวาลให้เข้าใจแจ้งนั้น
ท่านต้องละวางความเชื่อเดิมของท่านให้ว่าง
จงอย่านำมันมาผสมผสานกันกับความรู้ใหม่นี้
ทั้งๆที่ท่านรู้ตัวและไม่รู้ตัวก็ตาม

เราฟังความคิดรู้ของบางท่าน
ที่ชี้แจงแสดงออกมาในห้องเรียนแล้ว
เราพบความจริงที่ท่านต้องแก้ไขดังกล่าว
แต่ถ้าท่านไม่ยอมแสดงความคิดความเข้าใจ
ผิดถูกอย่างไรครูของท่านมิอาจรู้
เมื่อไม่รู้ว่าท่านสมควรที่จะรู้อะไรให้ถูกต้อง
ห้องเรียนของเราจากพระบิดาแห่งจิตวิญญาณ
ก็จะไม่เป็นห้องเรียนที่มีครูสื่อสอนแล้ว
คงเป็นได้แค่ตู้เก็บพระคัมภีร์ศักดิ์สิทธิ์
ที่เอาไว้ให้พวกท่านมาเปิดอ่านกันเอาเอง
อ่านแล้วเข้าใจถูกผิดรู้เรื่องไม่รู้เรื่อง
ก็คงเป็นไปตามยถากรรมเท่านั้น
พระคัมภีร์ที่ดีล้ำขนาดไหนก็ไร้ความหมาย

กราบพระบาทพระบิดาทรงเมตตา

เอเมน สาธุ
ป.วิสุทธิปัญญา
18/10/2021