Conversations with You.
เธอต้องการสนทนากับพระเจ้า
เพื่อเพียงจะบอกกับพระเจ้าว่า...
1.จุดมุ่งหมายของเธอ
คือ การวิวัฒน์ มิใช่การลงทัณฑ์
2.จุดมุ่งหมายของเธอ
คือ การเติบโต ไม่ใช่การตาย
3.จุดมุ่งหมายของเธอ
คือ การมีประสบการณ์ ไม่ใช่พลาดมัน
4.จุดมุ่งหมายของเธอ
คือ การเป็นบางสิ่ง ไม่ใช่หยุดเป็น
เราจะกล่าวต่อเธอในพระนามแห่งพระเจ้า
เพื่อสอนให้เธอฉลาดคิดรู้แท้จริงบ้างว่า...
ไม่ว่าจะเป็นจุดมุ่งหมาย 4 ข้อนี้
หรือจะมีอีกสักกี่ร้อยพันข้อก็ตาม
เธอจงรู้เอาไว้ว่า "พระเจ้า"
มิได้เข้ามาเกี่ยวข้อง
ในแผนการดำเนินชีวิตของเธอแต่อย่างใด
จุดมุ่งหมายใดจะบรรลุผลสมดั่งใจหรือไม่
มันจึงมิใช่แผนการของพระเจ้า
แม้ปากเธอจะร่ำร้องขอพรจากพระเจ้า
พระองค์ก็มิอาจประทานให้ตามที่เธอต้องการได้
เพราะอะไรรู้มั้ยเธอ....
เพราะมันมิใช่ภารกิจหรือกงการของพระเจ้าไงล่ะ
เธอต้องรู้เอาไว้ด้วยว่า
พระบิดาทรงกำหนดสร้างให้โลกนี้
เป็นดาวแห่งทางเลือกเสรีมาตั้งแต่เมื่อแรกสร้าง
เธอต้องการสิ่งใดในชีวิตทั้งดีชั่ว
เธอก็สามารถใช้อำนาจในตนเองไขว่คว้ามันมาได้
เพียงแต่เธอต้องอยู่ภายใต้กฎเกณฑ์ของพระองค์
คือกฎแห่งการสมดุลกันของทุกสรรพสิ่งเท่านั้น
อำนาจในตนเองของเธอก็เป็นอำนาจแห่งพระเจ้า
เธอจึงมีพระเจ้าในตนเอง
ซึ่งเธอสามารถฉลาดใช้เพื่อให้ได้มา
ในจุดมุ่งหมายทั้ง 4
หรือมากกว่า
ในแบบที่เธอต้องการได้อย่างเสรีเสมอ
การที่เธอไม่บรรลุเป้าหมายแห่งการวิวัฒน์
เพราะเธอล้มเหลวในสิ่งที่เธอทำในสิ่งที่เธอหวัง
แล้วต้องรับผลกรรมเลวร้ายจากความล้มเหลว
จนเธอทึกทักเอาเองว่า "พระเจ้า"
เป็นผู้ลงทัณฑ์นั้น
เธอต้องรู้สำนึกเอาไว้ด้วยว่า...
เธอก็เป็นคนหนึ่งที่ไม่ได้แตกต่าง
จากคนส่วนใหญ่บนโลกใบนี้ตรงที่
ไม่ยอมรับความล้มเหลวใดๆ
อันเกิดจากความไม่เอาไหนของตัวเอง
แล้วเที่ยวโยนความผิดบาปให้คนอื่นแทน
เช่นล้มเหลวในเรื่องงมงายก็ไปโทษผี
ล้มเหลวในเรื่องอยากได้ใคร่มีก็มาโทษ
"พระเจ้า"
เธอไม่รู้หรอกหรือว่า...
ความฉลาด ความโง่ ความยโส โอหัง
ความประมาท ขาดสติ ความหลงตัวเอง
ความมีวิริยะ อุตสาหะ ความอดทน ความขยัน
ความมุ่งมั่น ความเชื่อมั่น ความรัก ฯลฯ
ทั้งหมดนี้ คือ ตัวแทนของพระเจ้า
ซึ่งเป็นคุณสมบัติทั้งด้านดีและเลวของเธอ
ที่พระเจ้าประทานเอาไว้ให้เธอ
เรียนรู้ที่จะเลือกใช้มันได้อยู่แล้ว
ถ้าเธอเข้าถึงพระเจ้าในตนเองเหล่านี้ไม่ได้
จนต้องพบกับความปราชัยย่อยยับอับเฉา
แล้วเธอจะมาร้องแรกแหกกะเฌอหาพระเจ้า
เสมือนตำหนิติเตียนพระเจ้าได้อย่างไรกัน
การที่เธอไม่บรรลุเป้าหมายของการเติบโต
แต่เธอทุกคนต้อง "เติบตาย" คือ
โตเพื่อตายนั้น
เธอต้องเอาความโง่ออกจากตา
แล้วฉลาดคิดรู้ฉลาดพิจารณาบ้างว่า
ความจริงแล้ว......
พระเจ้าน่ะได้ทรงสร้างเครื่องยนต์แห่งกรรมให้เธอ
ที่ยอดเยี่ยมยิ่งกว่านวัตกรรมใดๆของพวกเธอเสียอีก
เพราะมันเจริญเติบโตได้เรื่อยๆ
พอโตเต็มที่แล้ว
ก็สามารถซ่อมแซมส่วนที่สึกหรอเองได้ด้วย
พระองค์ทรงให้ชีวิตที่จีรังแก่เธอแล้วมิใช่หรือ
เพราะเครื่องยนต์แห่งกรรมรูปธรรมมนุษย์ของเธอ
มันไม่มีวันตาย...ไม่มีวันตาย.....
เพราะเธอเลี้ยงดูมันไม่เป็น
ปฏิบัติกับมันอย่างไม่ถูกต้อง
เอาแต่ใช้งานแต่ขาดการใส่ใจดูแล
จนมันต้องตาย...
มิใช่เพราะตัวเธอทำร้ายตัวเองดอกหรือ
เธอไม่รู้หรอกหรือว่า
ความโง่กับความหลงตัวเองของเธอ
มันทำให้เธอขาดสติไร้สำรวม
จนกล้าตำหนิ "พระเจ้า"
ผู้ให้กำเนิดเธอนั้น
มันยากแก่การให้อภัย
การที่เธอไม่บรรลุเป้าหมาย
ของการหาประสบการณ์เพราะเธอพลาดมัน
นี่ก็เป็นความผิดพลาดล้มเหลวของเธอเอง
มิใช่ผิดพลาดตามพระบัญชาของพระเจ้า
ถ้าเธอเอาแต่นั่งกินนอนกินทั้งวี่วันดั่งคนพิการ
เธอย่อมพลาดประสบการณ์ชีวิตในโลกกว้าง
พระเจ้าจะบังคับให้เธอออกจากบ้าน
เพื่อไปหาประสบการณ์ในโลกกว้างได้หรือ
ถ้าเท้าสองข้างของเธอไม่ยอมก้าวย่าง
สองตาเธอไม่ยอมเบิ่งถ่างกว้างออกเพื่อแสวงหา
และสติปัญญาของเธอมิอาจใช้การได้
เพราะสมองทั้งสองซีกมันไม่ทำงาน
การที่เธอไม่บรรลุเป้าหมายในการเป็นบางสิ่ง
แต่กลับหยุดที่จะเป็นในบางสิ่งนั่นแทน
เธอหมายถึง เธออยากรวยเป็นเศรษฐี
แต่ไม่อาจมีความร่ำรวยตามต้องการได้
เธอหมายถึง เธออยากเป็นคนดี
แต่ไม่อาจเป็นคนดีกับใครเขาได้
เธอหมายถึง เธออยากรวยสนมรวยเมีย
แต่เธอไม่อาจทำตนตามตัณหานั้นได้
หรืออื่นๆ...เช่นนั้นหรือ
เราขอถามเธอว่าใครจะรวยได้ไม่ได้
มันเป็นสิทธิของใครคนนั้นมิใช่หรือ...
เพียงขยันทำมาหากิน หนักเอาเบาสู้
ฉลาดใช้ปัญญาในการประกอบสัมมาอาชีวะ
ฉลาดใช้เงิน และฉลาดอดออม
กฎเกณฑ์ง่ายๆเหล่านี้ก็ช่วยให้ไม่จนได้แล้ว
อยากเป็นคนดี แต่เป็นไม่ได้
ก็ลองใช้ปัญญาตรึกตรองสิว่า
ใครห้ามไม่ให้เธอเป็นคนดีล่ะ
พระเจ้า...อีกแล้วหรือ?
อยากรวยสนมรวยเมีย
แต่เธอเป็นอย่างที่ต้องการไม่ได้
เพราะไม่มีปัญญาเลี้ยงดู
เพราะที่จะเลือกเอามานั้นดันเป็นเมียเขาอื่น
เพราะลูกเมียเราเขายอมรับไม่ได้
เพราะสังคมไม่ยอมรับ
ก็ถามตนเองสิว่าเพราะอะไร
ไหงจึงโทษ "พระเจ้า"
เราจะกล่าวความจริงให้เธอรู้ว่า...
ความคิดของเธอที่กล่าวไว้ในหน้ากระดาษนั่น
มันอาจฟังดูดีมีสำบัดสำนวนชวนชื่นชม
แต่เราเห็นว่ามันเป็นแค่เพียงบทกวีนิพนธ์เท่านั้น
หาใช่ผลผลึกแห่งการคิดเชิงสัจธรรมไม่
ถ้าเป็นอย่างที่ต้องการไม่ได้
ถ้าทำอย่างที่ต้องการไม่ได้
ถ้ามีอย่างที่ต้องการไม่ได้
ก็จงอย่าโทษพระเจ้า
อย่าบ่นกับพระเจ้า
อย่าร้องขอต่อพระเจ้า
จงรีบพิจารณาตนเอง
เพื่อหาข้อบกพร่องผิดพลาดแล้วเริ่มใหม่
จงบ่นกับตนเอง
อย่าไปบ่นกับใครให้เขารำคาญ
เพราะมันไร้ประโยชน์
จงร้องขอต่อตนเอง
อยากสำเร็จเร็วก็เร่งลงมือทำอย่างไม่รั้งรอ
อยากก้าวหน้าอย่างราบรืนก็จงอย่าประมาท
และจะต้องทำด้วยความมุ่งมั่น เป็นต้น
ด้วยรักและปรารถนาดี
ในพระนามแห่งองค์จิตจักรวาล
เอเมน สาธุ
ป.วิสุทธิปัญญา
22-02-201