20 กุมภาพันธ์ 2560

ศาสตร์แห่งการอดทน



พี่น้องที่รักแห่งเราทั้งหลาย...

กว่าข้าวที่หุงจะสุกจนได้ที่ได้ทานนั้น
แม้ตัวท่านจะหิวโหยแค่ไหน
ท่านก็ต้อง "อดทน" ที่จะรอคอยกัน
ไม่ว่ามันจะนานสักเท่าใด

สาเหตุที่ท่านสามารถอดทน
รอข้าวที่หุงจนสุกได้ที่ จนกว่าจะได้ทานนั้น
ก็เป็นเพราะเหตุว่า...

1.มั่นใจว่าข้าวที่กำลังหุงนั้นสุกแน่
2.มั่นใจว่าต้องได้ทานข้าวที่กำลังหุงนั้นแน่
3.มั่นใจว่าท่านรอเวลาให้ข้าวสุกนั้นได้แน่
4.มั่นใจว่าใครๆเขาก็ต้องรอ
ให้ข้าวสุกก่อนทานกันทั้งนั้น
การรอคอยของท่านจึงไม่แปลกอะไร
5.มั่นใจว่าท่านเองต้องทนความหิว
เพื่อรอให้ข้าวสุกจนกว่าจะทานได้แน่ๆ
โดยท่านจะไม่เป็นลมเป็นแล้งไปเสียก่อน

ดังนั้น
การที่ท่านจะทำอะไรสักสิ่งในชีวิต
เพื่อยังประโยชน์สุขต่อตัวท่านเองและผู้อื่นนั้น
ท่านจำเป็นจะต้องหยิบเอา
"ความอดทน" ที่จะรอคอยผลสำเร็จ
ในสิ่งที่ท่านลงมือทำนั้นมาใช้ให้เป็น
โดยการอดทนรอที่ว่านี้
มิใช่เฝ้าแต่นั่งรอนอนรออยู่เฉยๆ

แต่ท่านต้องลงมือหุงข้าวด้วย
โดยท่านต้องซาวข้าวเป็น
ท่านต้องหุงข้าวเป็น
ท่านต้องติดไฟเผาฟืนเพื่อหุงข้าวเป็น
ท่านต้องดงข้าวเป็น และอื่นๆ

ซึ่งท่านจะต้องเฝ้าดูแลหม้อหุงข้าว
ในขณะที่อยู่บนเตาไฟนั้นอย่างใกล้ชิด
เพื่อดูแลมิให้ข้าวไหม้ มิให้ข้าวแฉะ เป็นต้น

ดูอย่างชาวนาที่ปลูกข้าว
เขาก็ต้องอดทนรอคอยวันเก็บเกี่ยวข้าว
ที่เขาเพาะปลูกเอาไว้อย่างได้ผลเช่นกัน

วันเวลาแต่ละวันที่ผ่านไปในชีวิตนี่แหละ
มันจะเป็นตัวชี้วัดว่าท่านมีความอดทนมั้ย
มีความอดทนมากน้อยเพียงใด

เช่น อดทนต่อการรอคอยเป็นมั้ย
อดทนต่อการกระทำไม่ถูกต้อง
ของผู้อื่นได้มั้ย
อดทนต่อความผิดพลาดล้มเหลวที่เกิดขึ้น
เพื่อการแก้ไขใหม่ทำใหม่
จนกว่าจะสำเร็จได้หรือไม่ เป็นต้น

เราจะกล่าวความจริงต่อท่านทั้งหลายว่า...

ขอท่านจงหยิบเอาศาสตร์แห่งการ "อดทน"
จากกรณีอดทนรอที่จะทานข้าว
ซึ่งกำลังหุงอยู่นั้นให้มันสุกได้ที่เสียก่อน
ด้วยการนำความมั่นใจ 5 ประการนั้นไปใช้

จงระลึกไว้เถิดว่า
การรอคอยลูกแกะที่หลงทางกลับเข้าคอกน่ะ
เราก็ต้องใ้ช้ความอดทนด้วยเช่นกัน
เราอดทนรอได้เพราะมั่นใจในพระบิดา
เราอดทนรอได้เพราะศรัทธาในสิ่งที่เราทำ
เราอดทนรอได้เพราะเรามั่นใจว่า
ลูกแกะของเราต้องกลับมาหาเรา
ผู้เป็นเจ้าของแน่นอน

ที่สำคัญคือ
เรามิได้รั้งรออยู่เฉยๆโดยไม่ทำอะไรเลย

เอเมน สาธุ
ป.วิสุทธิปัญญา

20-2-2017