เราจะกล่าวความจริงต่อท่านทั้งหลายว่า
คนที่ถูกเรียกว่า "คนโง่" นั้น
มิได้หมายถึงคนที่มีความบกพร่องทางสมอง
แต่หมายถึงคนที่มีสมองมีปัญญา
แต่เข้าถึงความฉลาดทางปัญญาของตนไม่ได้
และที่เข้าถึงความฉลาดทางปัญญาไม่ได้
ก็เพราะว่า "คิดไม่เป็น"
สาเหตุที่คิดไม่เป็นก็เพราะว่า
1.ได้แต่นึก:
นั่นคือ นึกได้ นึกเอา และนึกเอง
โดยใช้อารมณ์รู้สึกเป็นตัวขับเคลื่อน
เช่น อารมณ์ดีก็จะนึกบวก
หากอารมณ์ร้ายก็จะนึกลบ
2.ตั้งคำถามไม่เป็น:
นั่นคือ แม้ตนต้องการจะรู้คำตอบอะไร
แต่ก็ตั้งคำถามตนเองเพื่อให้ได้คำตอบ
ตามที่ตนต้องการนั้นไม่เป็น
ที่ตั้งคำถามตนเองไม่เป็นก็เพราะว่า
มีคนอื่นช่วยคิดแทนให้เสียจนเคยตัว
จึงขาดทักษะด้านการคิด
3.ขาดสติง่าย:
นั่นคือ เป็นคนอ่อนไหวกับการถูกยั่วยุง่าย
เมื่อได้รับการยั่วยุก็จะเสียสมดุลทางอารมณ์
เมื่อเสียสมดุลทางอารมณ์แล้ว
ก็มักจะใช้อารมณ์ที่ไม่สมดุลนั้น
แสดงออกหรือกระทำแทนการใช้ปัญญา
จนก่อความผิดพลาดและผิดบาปอยู่เสมอ
ดังนั้น
ท่านทั้งหลายจึงต้องรู้ว่า
"ความฉลาดทางปัญญา" นั้นสร้างได้
เพียงแค่ท่านจักต้องครองคุณสมบัติด้านบวก
ใน 3 ประการตามที่กล่าวมาแล้วนั้นให้ได้
กล่าวคือ
1.ท่านต้องไม่ดีแต่นึกด้วยจิต
แต่ท่านต้องฝึกคิดด้วยสมองด้วย
2.ท่านต้องฝึกสร้างกระบวนการคิด
เพื่อเพิ่มพูนทักษะการตั้งคำถามตนเอง
ให้สอดคล้องกับคำตอบ
ที่ท่านต้องการให้ได้ก่อน
3.ท่านต้องมีทักษะในการควบคุมอารมณ์
ไม่ให้อ่อนไหวง่ายเมื่อถูกยั่วยุ
นั่นคือการที่ท่านต้องเป็นผู้ "มีสติ"
ด้วยการใช้ Chicken Model ของ อ.ปริญญา
ดังต่อไปนี้ คือ
1) ฉลาดรับรู้ ฉลาดไม่รับเอา
นั่นคือให้เลือกรับรู้แต่เฉพาะสิ่งที่เป็นสาระ
และให้ปฏิเสธสิ่งที่จะทำให้ท่านเสียสมดุล
โดยละวางประเด็นนั้นลงเสียให้ได้
อย่าไปเสียเวลาใส่ใจมันเลย
2) ฉลาดรับรู้ ฉลาดรับเอา
นั่นคือการเลือกที่จะใส่ใจเรียนรู้แต่สิ่งสาระ
แล้วก็รับเอาสาระนั้นมาสร้างความปลื้มปิติ
หรือความภาคภูมิใจให้ตนเอง
3) ฉลาดที่จะไม่รับรู้ ฉลาดที่จะไม่รับเอาอะไร
เพราะในชีวิตประจำวันของท่านนั้น
อาจมีบางครั้งที่ท่านจักต้องยอมปล่อยวาง
บางสิ่งที่ท่านคุ้นชินกับมันอยู่แล้ว
โดยไม่ไปเสียเวลาให้กับมันอีก
เช่น ถ้าสามีท่านเป็นคนจู้จี้ขี้บ่น
เขาก็คงจะขี้บ่นอยู่เป็นอาจิณแล้ว
ตั้งแต่แต่งงานกันมาหลายปี
สามีก็คงจะขี้บ่นเสียจน
ภรรยาชินหูกันบ้างแล้วแหละนะ
เอเมน สาธุ
ป.วิสุทธิปัญญา
25-04-2016