21 พฤศจิกายน 2558

ปรากฏการณ์ก๊าซโอโซนรั่ว ในชั้นบรรยากาศโลก


ขณะนี้พบว่าเกิดรูรั่วของชั้นโอโซนเหนือขั้วโลกใต้
มีขนาดใหญ่เท่ากับพื้นที่ทวีปอเมริกาเหนือ!!!

เมื่อเดือนตุลาคมที่ผ่านมา
มีการตรวจพบว่า

ในชั้นบรรยากาศโลก
ตรงบริเวณแถบแอนตาร์กติกหรือขั้วโลกใต้
มีช่องโหว่หรือรูรั่วของโอโซน
กินพื้นที่กว้างราวๆ 25.8 ล้านตารางกิโลเมตร
ซึ่งถือว่าเป็นรูโหว่ที่ใหญ่ที่สุดเป็นประวัติิการณ์
เพราะเป็นพื้นที่ขนาดใหญ่พอๆกับ
ทวีปอเมริกาเหนือทั้งทวีปเลยทีเดียว

ปรากฏการณ์ก๊าซโอโซนรั่ว
ในชั้นบรรยากาศโลกนี้
เป็นตัวชี้วัดได้เป็นอย่างดีว่า
ดาวเคราะห์โลกทุกวันนี้
กำลังขาดแคลนก๊าซอ๊อกซิเจนอย่างหนักแล้ว

เพราะในก๊าซโอโซน 1 โมเลกุลนั้น
จะได้จากการรวมตัวกัน
ของก๊าซออกซิเจนถึง 3 อะตอม 

ถ้าโลกมีปริมาณก๊าซอ๊อกซิเจน
ที่เหลือใช้แล้วเป็นปริมาณสูงมาก
ก๊าซโอโซนที่ลอยตัวขึ้นไปในชั้นบรรยากาศ
ก็จะถูกโลกดึงดูดเหนี่ยวรั้ง
ให้ปกคลุมหุ้มห่อโลกเอาไว้
อย่างหนาแน่นไร้ช่องโหว่รูโหว่เสมอ

แต่ถ้ามีปริมาณอ๊อกซิเจนที่เหลือใช้
น้อยกว่าที่พระบิดาทรงกำหนดเอาไว้มาก
โอโซนในชั้นบรรยากาศโลกจะเบาบาง
ถ้าน้อยกว่าพิกัดสมดุลที่ทรงกำหนดเอาไว้ให้
มันก็จะฟ้องด้วยช่องโหว่หรือรูรั่วดังที่ปรากฏในขณะนี้

แต่เนื่องจากก๊าซออกซิเจน
ที่มนุษย์และสัตว์ใช้หายใจ 
พืชต้องใช้อ๊อกซิเจน
ในกระบวนการสังเคราะห์แสงร่วมกับสีเขียวที่ใบ
เพื่อการผลิตสร้างอาหารเลี้ยงตนเองนั้น

ต้องใช้พลังงานความรักบริสุทธิ์จากจิตมนุษย์
ในรูปของคลื่นความถี่ทางไฟฟ้าแม่เหล็กด้านบวก
ที่มีจำนวนพลังงานมากพอและต่อเนื่อง
ลงไปทำปฏิกริยา "Nuclear Fission"
กับอะตอมของธาตุออกซิเจนเหลวบริสุทธิ์ 100%
ซึ่งติดตั้งอยู่ภายใต้ฝ่าเท้าของทุกท่าน
ภายในแกนกลาง (Core) หรือ "แก่น" โลก 

ดังนั้น...
การที่โลกเกิดปรากฏการณ์ช็อคจักรวาล
เพราะมีรอยรั่วของก๊าซโอโซนขนาดมหึมา
ในบรรยากาศทางขั้วโลกใต้นี้
จึงเป็นตัวชี้วัดความล้มเหลวของมนุษย์โดยรวม
ที่รักไม่ได้ ให้อภัยไม่เป็น มีกิเลสตัณหาครอบงำ
จนยังผลให้จิตสำนึกแห่งการเป็นมนุษย์
ของชาวโลกส่วนใหญ่ตกต่ำจนวิกฤตนั่นเอง

หากขืนปล่อยให้โลกเกิดรูรั่วชั้นโอโซน
มีขนาดกว้างใหญ่ไพศาลมากขึ้นเรื่อยๆเช่นนี้แล้ว
ภัยอันตรายที่มนุษย์ส่วนใหญ่รู้แล้วก็คือ
มนุษย์จะไม่ปลอดภัยจากรังสีบางอย่าง
ที่ถูกส่งมาจากดวงอาทิตย์และจากแหล่งอื่นในอวกาศ

นอกจากนั้นภัยมหันต์ที่มนุษย์โลกยังไม่รู้
นั่นคือ วันหนึ่งในอีกไม่นานข้างหน้า
มนุษย์และสิ่งมีชีวิตทั้งหลาย
จะต้องเผชิญกับสถานการณ์วิกฤตของก๊าซออกซิเจน
จากการมีอ๊อกซิเจนในธรรมชาติไม่เพียงพอ
ทุกคนต้องแย่งกันหายใจ แย่งกันใช้อ๊อกซิเจน

หลายคนจะเกิดอาการปัญญาทึบคิดไม่ออก หัวช้า
หลายคนจะเกิดอาการวิงเวียนศีรษะ 
หลายคนจะเกิดอาการคลื่นไส้ อยากอาเจียน
หลายคนจะเกิดอาการหาวถี่ๆ ง่วงนอนผิดปกติ
หลายคนจะมีอาการหัวใจสั่นคล้ายใจจะขาด
หลายคนจะขาดสติง่ายมีอารมณ์รุนแรงเมื่อถูกยั่วยุ

หลายคนจะเหนื่อยง่าย เหนื่อยเร็ว 
แม้ออกกำลังกายเพียงเล็กน้อย

นักกีฬาบางคนอาจช็อคหมดสติหรือหัวใจวายคาสนาม
นักกีฬาบางคนที่ต้องใช้กล้ามเนื่อน่องขา
ก็จะเกิดอาการเป็นตะคิวกระทันหัน
ฯลฯ

ที่เรากล่าวเอาไว้ตั้งยืดยาวก็เพื่อให้ท่านทั้งหลาย
คอยติดตามเฝ้าสังเกตอาการเหล่านี้กันด้วยตนเอง
เพื่อจะได้รู้ตัวล่วงหน้าก่อนใครๆว่า
ภัยร้ายอันหมายถึงชีวิตมันมาถึงตัวเมื่อไหร่
จะได้จัดการกับตนเองได้ทันท่วงที
เนื่องจากมันเป็น "ความรู้ใหม่
ที่มนุษย์โลกทั้งหลาย "ยังไม่รู้ว่าตนไม่รู้"

สมาชิกในครอบครัวจิตจักรวาล
คงต้องทำงานหนักด้วยการรักกันให้มากขึ้น
เพื่อมอบดอกผลแห่งรักให้แก่ดาวโลก
ใช้เยียวยาช่องโหว่ของโอโซน
ให้มิดชิดสนิทดังเดิมโดยเร็ว

ก๊าซโอโซนเป็นก๊าซที่
แปรสภาวะและเปลี่ยนคุณสมบัติ
มาจากก๊าซอ๊อกซิเจนในระบบโลกเอง

โดยมีประโยชน์อีกด้านหนึ่งซึ่งท่านต้องรู้ไว้
นั่นคือ บรรยากาศชั้นโอโซนที่หุ้มห่อโลกไว้นี้
จะทำหน้าที่เสมือนเป็นถุงลมขนาดใหญ่
ที่จะคอยกักกั้นก๊าซออกซิเจนเอาไว้ในระบบโลก
มิให้หลุดลอยออกไปนอกระบบง่ายๆอย่างไร้ประโยชน์

เราจึงขอกล่าวความจริงเหล่านี้
ให้ท่านรับรู้ไว้ด้วยรักและปรารถนาดี
ผู้ใดไม่เชื่อก็อย่าลบหลู่
จงรอวันพิสูจน์เถิด...อีกไม่นานหรอก

เอเมน สาธุ
.วิสุทธิปัญญา
21-11-2015