เพราะมนุษย์สอบตกบททดสอบ
การเป็นหนึ่งเดียวกัน
สังคมจึงวุ่นวาย โลกจึงไม่สงบ
ภัยพิบัติจึงทวีความรุนแรงยิ่งขึ้น
เพราะจิตสำนึกตกต่ำจนยากเยียวยา
จักรวาลรู้ดีว่า....
มันเป็นเรื่องยากสำหรับมนุษย์อยู่มาก
ที่จะสร้างความสัมพันธ์ให้เป็นหนึ่งเดียวกันกับจักรวาล
เพราะในสังคมโลกของมวลมนุษย์ด้วยกันเอง
ก็ยังมิอาจสร้างความลงตัวต่อกันได้เลย
ทั้งๆที่พระบิดาทรงกำหนดให้มนุษย์แต่ละคน
ล้วนมีกลไกอวัยวะสำคัญ
อันเป็นเครื่องมือของจิตสำนึกให้ได้ใช้กันอยู่แล้ว
แต่มนุษย์ส่วนใหญ่
กลับใช้มันไม่เป็น
มนุษย์มีปาก
เอาไว้พูดกับตนเอง
เอาไว้บ่น ก่นด่า ประณามผู้อื่น
เอาไว้ถากถางเหน็บแนมผู้อื่น
เอาไว้นินทาว่าร้าย ใส่ความผู้อื่น
เอาไว้ออกคำสั่งหรือใช้หว่านล้อมผู้อื่น
เพื่อผลประโยชน์ตนมากกว่าการใช้มัน
เพื่อประโยชน์ส่วนรวม
มนุษย์มีหู
เอาไว้รับฟังความต้องการของตนเอง
เอาไว้คอยเงี่ยหูฟังคำยกยอปอปั้นจากใครสักคน
เอาไว้คอยสอดรู้เสียงซุบซิบนินทาผู้อื่นจากคนรอบข้าง
เอาไว้คอยปฏิเสธคำแนะนำ ความหวัง กำลังใจ
อีกทั้งความปรารถนาดีของผู้อื่น
มนุษย์มีตา
เอาไว้สอดส่ายมองหาผลประโยชน์ส่วนตน
เอาไว้มองหาช่องทางแห่งโอกาส
เพื่อจะรีบฉกฉวยมันมาเป็นของตัวก่อนใครอื่น
เอาไว้สอดส่องจับผิดพิรุธของบุคคลแวดล้อม
เอาไว้มองหาความผิดพลาดของผู้อื่น
เพื่อความสะใจหรือเยาะหยัน
เอาไว้มองความสำคัญของตน
เหนือใครอื่น
มนุษย์มีจิตใจ
เอาไว้นึกคิดสิ่งใดๆ
เพื่อตอบสนองความต้องการ
ทางอารมณ์รู้สึกของตนเอง
มากกว่าการคิดที่จะ
ตอบสนองความต้องการของผู้อื่นบ้าง
เอาไว้ต่อต้านการกระทำของผู้อื่น
ที่ตนเองไม่เห็นด้วย
ไม่เห็นชอบ และไม่ได้ประโยชน์
เอาไว้ตัดสินผู้อื่น
ตามความคิดต้องการของตนเอง
ตามความรู้สึกพอใจไม่พอใจของตนเองเป็นสำคัญ
แม้ว่าจะมิใช่มนุษย์ทุกคนที่เป็นเช่นนี้
แต่มันก็นำมาซึ่งความสับสนวุ่นวาย
ในสังคมมนุษย์โลกเสรีนี้ได้ไม่น้อยเลย
เพราะต่างคนต่างเป็นอุปสรรคของกันและกัน
จึงยังผลให้ความขัดแย้ง
และการทะเลาะเบาะแว้งในสังคมมนุษย์
เสมือนเป็นเรื่องปกติธรรมดาไป
ทั้งๆที่สำหรับจักรวาลแห่งองค์จิตจักรวาลแล้ว
ความแตกแยก คือ
เรื่องร้ายแรงที่สุดที่ทรงอภัยให้มิได้เลย
เพราะมนุษย์ส่วนใหญ่
คุ้นเคยกับความขัดแย้งแตกแยก
จนลืมไปแล้วว่า...
ความสงบสุขและสันติมันหมายความว่ากระไร
หน้าที่หลักของตนในการเป็นมนุษย์คืออะไร
ทั้งสังคมเล็กสังคมใหญ่
จึงถามหาความเป็นหนึ่งเดียวกันนั้นแสนยาก
เอเมน สาธุ
ป.วิสุทธิปัญญา
10-08-2015