04 กรกฎาคม 2558

เราจึงมิใช่เจ้าลัทธิ


เราจะกล่าวความจริงต่อท่านทั้งหลายว่า
ความหมายของคำว่า "พระศาสดา" นั้น
องค์จิตจักรวาลทรงหมายถึง

ผู้ที่พระองค์ทรงใช้ให้มาทำหน้าที่
กล่าวพระโอวาทในพระนามแห่งพระองค์
ต่อพี่ๆน้องๆชาวโลกเสรีดวงนี้
ในยุคที่สังคมชาวโลกโดยผู้คนส่วนมาก
มีศีลธรรมเสื่อมเพราะจิตสำนึกตกต่ำ

ดังนั้น.....
ที่ผ่านมาตัวแทนแห่งพระบิดาทุกพระองค์
จึงมิจำเป็นจะต้องร้องกล่าวบอกต่อใครๆว่า
ตนนั้นเป็น "พระศาสดา" ให้หมู่มารคลื่นเหียนเลย

แต่ละพระองค์เพียงมุ่งมั่นสั่นสะเทือนตนเอง
เพื่อการสื่อสารในระบบจิตสู่จิตกับพระบิดา
ในอันที่จะน้อมนำเอาพระโอวาทศักดิ์สิทธิ์ลงมา
กล่าวต่อประดาพี่ๆน้องๆทั้งหลาย
ผู้ใฝ่หาการหลุดพ้นอยู่แทบทุกวันคืนเท่านั้น

เราจึงขันอาสาพระองค์ลงมาทำหน้าที่อันสูงส่ง
ในพระนามแห่งองค์จิตจักรวาลผู้ทรงเป็นพระบิดา
ด้วยบทบาทหน้าที่ของ 
The King of the Universe
ในบริบทของ "ผู้รับใช้" ที่สัตย์ซื่อ
เพื่อช่วยนำพาแก่นแท้ของท่านทั้งหลาย
ให้เลิกเดินถ่างขาแล้วมุ่งหน้าตรงสู่ด่านนภาลัย
ในสภาวะจิตไสวใจสวยรวยปัญญาญาณ
อีกทั้งวิธีการครองตน
ให้พ้นมือของเหล่ามารได้อย่างสง่างามด้วย

คำว่า "พระศาสดา"
ในความหมายแห่งองค์จิตจักรวาล
จึงมีเพียงเท่านี้มิมีเป็นอย่างอื่น

ส่วน "พระศาสดา" ทางวิชาโลกนั้น
คือผู้ปฏิบัติดีปฏิบัติชอบ

คือผู้ที่มาอย่างไรก็ไปอย่างนั้น
คือผู้ที่ประดาสัตว์โลกทั้งหลาย
เลือกใช้พระองค์เป็นต้นแบบการดำเนินชีวิต
โดยมีจุดมุ่งหมายแห่งการหลุดพ้นเป็นสำคัญ

พระองค์จึงทรงเป็นผู้นำทางจิตวิญญาณ
ที่มนุษย์โลกต่างพากันยอมรับยกย่องกันเอง
โดยที่พระองค์มิได้ทรงจำเป็นต้อง
ยกย่องพระองค์เองว่าทรงเป็น "พระศาสดา"

ไม่ต่างจากการทำความดีแล้วมีคนยกมือไหว้
โดยไม่จำเป็นจะต้องร้องสั่งใครให้กราบไหว้
ด้วยการบอกพวกเขาว่า "ฉันเป็นคนดี" นั่นแหละนะ

การที่เราถือบทบาท 
"บุตรเอก" แห่งพระบิดามาในภพชาตินี้
ยิ่งทำให้เรารู้ว่าคุณค่าแห่งการเป็นตัวเรานั้น
มันล้ำค่ากว่าการที่เราจะเลือกเป็นศาสดา
หรือว่าเลือกจะเป็นอะไรๆ
ที่ไม่ว่ามารหรือใครๆใคร่จะเป็นหลายเท่านัก

เอเมน สาธุ

ป.วิสุทธิปัญญา
4-07-2015