05 กรกฎาคม 2558

พันธะสัญญา 6



***เราจะกล่าวความจริงเพื่อเตือนติงท่านทั้งหลายว่า
การที่ตัวตนแก่นแท้ คือจิตวิญญาณของท่าน
เป็นผู้ขันอาสาองค์จิตจักรวาล
เดินทางข้ามมิติเข้ามาสู่การเกิดเป็นมนุษย์
ยังดาวเคราะห์โลกเสรีดวงนี้นั้น

ก็เพื่อเข้ามาปฏิบัติภารกิจหลักที่สำคัญ 6 ประการ
โดยในที่นี้จะเรียกว่า "พันธะสัญญา 6"
ซึ่งท่านทั้งหลายจักต้องกระทำให้สำเร็จให้ได้
ภายในกำหนดเวลาหนึ่งยุค คือ 60,000 ปีโลก
แล้วจากนั้นท่านก็จะต้องหาหนทาง
นำพาจิตวิญญาณแก่นแท้ของตน
ย้อนคืนกลับบ้านที่จิตวิญญาณจากมา
ในสภาวะจิตที่เป็นสุญตาดังเดิมให้จงได้

แต่นักเรียนทั้งหลายจักต้องรู้ว่า
ถ้าท่านจะปฏิบัติภารกิจทั้ง 6 นั้นให้ลุล่วงได้
พวกท่านจักต้องยกระดับความเป็นคน
ด้วยการ "คนตนเองให้เป็นมนุษย์" 
ให้สำเร็จก่อน!!!

เพราะว่าถ้าท่านยัง "คนไม่เสร็จ" 
หรือ ยังคนไม่สำเร็จ
จนเรียกว่าเป็นมนุษย์กับเขาได้อย่างเต็มคำแล้ว
ต่อให้เวียนว่ายตายเกิดกันอยู่อีกสักกี่ภพชาติ
ท่านก็จะไม่สามารถบรรลุเป้าประสงค์ทางจิตวิญญาณ
ในการมาเกิดเป็นมนุษย์แห่งโลกเสรีนี้ได้เลย

ตัวอย่างเช่น....
ท่านจะเป็นเพื่อนร่วมงานกับดาวเคราะห์โลก
ตามข้อ 1 ในพันธะสัญญา 6 ไม่ได้
ถ้าหากตราบใดที่ท่านยังใช้จิตหยาบ
ซึ่งถูกครอบงำไว้ด้วยกิเลส ตัณหา อุปาทาน
อันเป็นคุณสมบัติของฝ่ายมารกับซาตาน
จนท่านมิอาจเข้าถึงการเป็นหนึ่งเดียวกัน
กับจิตวิญญาณผู้เป็นตัวตนแก่นแท้
ซึ่งเร้นอยู่ในเครื่องยนต์แห่งกรรม
รูปธรรมมนุษย์ของตนเองได้ 

ที่เข้าถึงการเป็นหนึ่งเดียวกัน
กับแก่นแท้ของท่านเองไม่ได้
เพราะวันๆอายตนะทั้งหกของท่าน
มันตั้งหน้าตั้งตาแต่จะหมุน "กรรมจักร" 
แทนการหมุน "ธรรมจักร" อยู่นั่นเอง

เมื่อจิตหยาบหมุนธรรมจักรไม่สำเร็จ
จิตหยาบจึงเข้าถึงจิตวิญญาณของท่านเองไม่ได้

เมื่อจิตหยาบกับจิตวิญญาณของท่าน
เข้าถึงการเป็นหนึ่งเดียวกันไม่ได้
จิตวิญญาณของท่านจึงมิอาจเข้าถึง
การเป็นหนึ่งเดียวกันกับตัวตนภาคแรกที่สูงส่ง
ที่เรียกว่า "จิตจักรวาลดวงเล็ก"
ผู้แบ่งภาคตนเองออกมาเป็นจิตวิญญาณของท่าน
ซึ่งขณะนี้ก็ยังดำรงสภาวะสุญตาอยู่กับพระบิดา
เพื่อรอคอยการคืนกลับของแก่นแท้
ณ แดนสุญตาหรือแดนนิพพานกันอยู่

เมื่อเป็นเช่นว่านี้แล้ว
จิตวิญญาณของท่านจึงขาดการติดต่อ
กับจิตจักรวาลของท่านเองและพระบิดาไปในที่สุด

ด้วยเหตุเช่นนี้เอง
พระศาสดาซึ่งเป็นพระบุตรเอกแห่งพระบิดา
นอกจากต้องเสด็จลงมาโปรดท่านทั้งหลาย
ยังดาวโลกเสรีดวงนี้.....
เพื่อสื่อถ่ายทอดพระโอวาทกับพระวจนะ
จากพระบิดาหรือพระเจ้า
ต่อพี่ๆน้องๆชาวโลกแล้ว
ยังต้องทรงทำหน้าที่เสมือนหนึ่งเสาอากาศ
เพื่อรับใช้ถ่ายทอดคลื่นความคิด
และการร้องขอใดๆของท่าน
ต่อองค์จิตจักรวาลดวงใหญ่ให้ทรงพระเมตตา
เป็นภารกิจสำคัญและศักดิ์สิทธิ์อีกต่างหากด้วย

ดังนั้น...
ที่เราเพียรเตือนพร่ำสื่อสอนเสมอมาว่า
จงอย่าเดินถ่างขา
จงหมั่นรักษามหาสติ
จงมีปณิธานแห่งนิพพานให้ชัดเจน
จงอย่ายอมตกเป็นทาสมาร
จงเน้นการพึ่งพาตนเอง
จงยำเกรงและให้เกียรติในความดีงามของผู้อื่น
ล้วนแล้วแต่เป็นการชี้หนทางอันประเสริฐ
ต่อท่านทั้งหลายด้วยรักและเมตตาเสมอมา

จงหยุดหมุนกรรมจักรเพื่อยุติการมีสังสารวัฏเสียที
หน้าที่ของท่านคือการหมุนธรรมจักร
โดยหมุนอายตนะด้วยความรักและปัญญา
เพื่อการเข้าถึงพันธะสัญญา 6 
ที่เคยสอบตกกันมาทุกภพชาติให้จงได้

เราชี้ทางนิพพาน....
คือเส้นทางกลับบ้านของจิตวิญญาณให้ท่านแล้ว

ท่านทั้งหลายจึงสามารถพิสูจน์รู้กันได้ว่า
นิพพานในมรรควิถีแห่งจิตจักรวาลนี้
จึงมิใช่เป็นเพียงการขายฝัน
ในการคิดชั่วด้วยจิตมารแน่นอน
เพราะเราชี้วิธีปฏิบัติให้ท่านอย่างชัดเจนเป็นรูปธรรม

หากท่านผู้ใดครองมหาสติได้ดี
ผู้ใดมีปณิธานแห่งการหลุดพ้นชัดเจน
ผู้ใดสำนึกเห็นพระเมตตาในพระบิดาแล้ว
ประดาซาตานกับมารทั้งหลาย
ก็จักเป็นแค่เพียงเศษธุลีฝุ่น
ที่เกาะติดส้นเท้าของพวกท่านเท่านั้นเอง

เอเมน สาธุ

ป.วิสุทธิปัญญา
5-07-2015