21 มีนาคม 2562

สนทนาประสาจิตจักรวาล 21/03/2019

 #สนทนาประสาจิตจักรวาล

 

พี่ๆน้องๆที่รักแห่งเราทั้งหลาย

เราขอกล่าวความจริงต่อท่านทั้งหลายว่า

ขณะนี้โลกสิ้นสุดยุคพลังงานเก่าแล้ว

 

การสิ้นยุคพลังงานเก่าหมายถึง

จิตวิญญาณผู้ขันอาสามาเกิดเป็นมนุษย์

เพื่อทำหน้าที่ตามพันธะสัญญา 6

ตามที่เคยให้สัจจะไว้กับองค์จิตจักรวาล

พระบิดาแห่งจิตวิญญาณของท่าน

พระผู้เป็นเจ้าเหนือสิ่งทั้งปวงว่า

 

จะข้ามมิติเข้ามาทำหน้าที่อยู่ในระบบโลก

ภายในระยะเวลานาน 6 หมื่นปีโลก

โดยเมื่อครบตามกำหนดแล้ว

ก็จะนำพาจิตวิญญาณแก่นแท้ของท่าน

เดินทางกลับสู่ภูมิลำเนาเดิมที่จากมา

ในสภาวะ "หลุดพ้น" ออกไปจากเอกภพ

 

บัดนี้

เราขอประกาศให้ท่านทั้งหลายรับรู้ว่า

โลกเสรีนี้ถึงกาลสิ้นยุคพลังงานเก่าแล้ว

และกำลังเปลี่ยนผ่านสู่ยุคพลังงานใหม่

โดยดวงจิตวิญญาณจากฟ้าสีคราม

จะข้ามมิติเข้ามาสู่การเกิดเป็นมนุษย์

เพื่อทำหน้าที่แทนท่านทั้งหลาย

ซึ่งพวกท่านจะต้องกลับออกไปให้หมด

ยกเว้นผู้มีหน้าที่พิเศษไม่กี่รูปธรรมเท่านั้น

ที่จะยังอยู่เพื่อทำหน้าที่ต่อไปได้

 

ถ้าจิตวิญญาณแก่นแท้ของท่านทั้งหลาย

ยังหลงยุค ยังติดโลก ยังติดกรรม

ยังตกนรกหมกไหม้

ยังหลุดลอยค้างฟ้า

เพราะว่าหลงทางนิพพานอยู่

จิตวิญญาณของผู้มาใหม่ในยุคใหม่

ก็จะมิอาจเข้ามาเกิดใหม่ในระบบโลกนี้ได้

 

ดังนั้น

พระผู้เป็นเจ้าเหนือสิ่งทั้งปวง

จึงมีพระบัญชาให้เรากลับมาช่วยเหลือ

มนุษย์ทั้งหลายในระบบโลกเสรีนี้

ให้เกิดสติทางวิญญาณ

เพื่อมีสำนึกที่จะกลับบ้าน

และบอกวิธีที่จะดีดตนเองออกไปให้พ้น

จากโลกและเอกภพที่เป็นระบบใหญ่ให้ได้

ภายในภพชาติสุดท้ายคือชาตินี้

โดยไม่ต้องรอชาติหน้าอีกต่อไปแล้ว

 

พี่ๆน้องๆที่รักทั้งหลาย

 

เลิกก้าวตามคนนำทางตาบอด

ที่พาวนเวียนขึ้นเขาวงกต

แล้วพาต่อไปขึ้นยอดเขาพระสุเมรุ

นานนับแสนล้านโกฎปีโลกเข้าให้แล้ว

ก็ยังไม่รู้ว่าอีกนานแค่ไหนจึงจะไปให้ถึงได้

 

ด้วยมรรควิถีจิตจักรวาลเท่านั้น

ท่านสามารถนำพาจิตวิญญาณหลุดพ้นได้

ภายในภพชาติปัจจุบันนี้เพียงชาติเดียว

โดยมีเงื่อนไขว่า

 

1. จิตวิญญาณแก่นแท้ของท่าน

ต้องเติมพลังงานความรักเอาไว้ให้เต็มล้น

เพราะมันมีผลต่อการดีดตนเอง

ให้หลุดพ้นออกไปจากแรงดึงดูดเหนี่ยวรั้ง

ของอนันตจักรวาลอันไพศาลนี้โดยตรง

 

ถ้าจิตวิญญาณท่านมีพลังงานน้อย

ก็จะไม่มีพลังหนีแรงดึงดูด

จนหลุดพ้นออกไปนอกระบบได้

การทำบุญสุนทานสร้างสานบารมี

มีกายกรรม วจีกรรม มโนกรรมที่ดี

ล้วนเป็นวิธีเพิ่มพลังทางจิตวิญญาณทั้งนั้น

 

มีจิตนิสัยรักใครก็ได้แม้เขาจะไม่น่ารัก

มีจิตนิสัยปรารถนาที่จะเห็นผู้อื่นมีความสุข

มีจิตนิสัยปรารถนาจะช่วยผู้อื่นให้พ้นทุกข์

มีจิตนิสัยยินดีที่ได้เห็นผู้อื่นมีความสุข

 

มโนกรรมเหล่านี้

เป็นมรรควิถีจิตจักรวาล

ที่จะเพิ่มพลังงานให้จิตวิญญาณท่านได้

ท่านสามารถประพฤติได้ในชีวิตประจำวัน

กับทุกคนทุกตัวที่อยู่รอบข้างตัวท่าน

 

2. ไม่ก่อกรรมใหม่และเร่งแก้ไขกรรมเก่า

อย่างจริงจังในชีวิตประจำวันของท่าน

 

เพราะการก่อกรรมใหม่

มันจะทำให้น้ำหนักมวลจิตวิญญาณเพิ่มขึ้น

ถ้าก่อกรรมใหม่เพิ่มขึ้นมากเท่าใด

จิตวิญญาณท่านก็จะมีน้ำหนักมากขึ้นเท่านั้น

 

ถ้าจิตวิญญาณของท่านมีน้ำหนักมวลมากๆ

โลกและจักรวาลอันไพศาลนี้

ก็จะส่งแรงดึงดูดจิตวิญญาณท่านมากขึ้นด้วย

มันจะยังผลให้การหลุดพ้นออกไปยากขึ้น

จนกระทั่งเป็นไปไม่ได้เลย

หากพลังอำนาจในการดีดตนเองออกไป

มันมีไม่มากพอ

 

นอกจากนั้นท่านต้องไม่หนีเข้าป่า

หรือต้องไม่ไปปลีกวิเวกอยู่คนเดียว

โดยท่านต้องอยู่ในสังคมนี่แหละ

เพราะท่านยังมีหน้าที่ต้องแก้ไขกรรมเก่า

ที่เคยกระทำผิดพลาดเอาไว้ในอดีตชาติ

กับผู้ร่วมชะตากรรมคนอื่นๆอีกด้วย

 

เนื่องจากกรรมเก่านี่เอง

ที่เป็นเหตุให้ท่านต้องกลับมาเกิดใหม่ในชาตินี้

เพื่อทำให้กรรมเก่าที่ถือติดตัวมาเกิดในชาตินี้

เป็นโมฆกรรมให้หมดอย่างสิ้นเชิง

เพราะกรรมเก่านี่แหละทำให้จิตวิญญาณท่าน

หนีแรงดึงดูดเพื่อหลุดพ้นออกไปไม่ได้

เพราะมีน้ำหนักมวลมากเกินพิกัด

จึงต้องกลับมาเกิดใหม่เพื่อชำระทิ้งให้สิ้น

 

พี่ๆน้องๆที่รักทั้งหลาย

 

ผลกรรมเก่าจากอดีตก็ต้องชำระให้สิ้น

กรรมใหม่ๆในชาติปัจจุบันก็ต้องไม่ก่อเพิ่ม

มันจะช่วยให้น้ำหนักจิตวิญญาณ

ที่เป็นเหมือนกล่องพลังงาน

มีน้ำหนักเท่ากับตอนที่เข้ามาเกิดในชาติแรก

นั่นคือไม่เกิน 50 มิลลิกรัมนั่นเอง

 

เพราะน้ำหนักมวลเท่านี้

จิตวิญญาณท่านสามารถดีดตนเองออกไป

จากเอกภพหรืออนันตจักรวาลนี้

ผ่านทาง "ประตูคอกแกะพระบิดา"

ที่เราเรียกว่า #ด่านนภาลัย ออกไปได้เลย

ด้วยความเร็วเท่ากับความเร็วแสง

ที่เปลี่ยนค่าเป็นสองเท่าในทุกๆวินาที

อันเป็นการเคลื่อนที่เดินทางด้วยอัตราเร่ง

 

ดังนั้น

ถ้าน้ำหนักตัวไม่เกินพิกัด

จิตวิญญาณไม่มีขยะพลังงานกรรมติดตัว

การหลุดพ้นก็ยิ่งง่ายดายขึ้นแล้ว

 

วิธีการไม่ก่อกรรมใหม่และแก้ไขกรรมเก่า

ท่านทั้งหลายสามารถทำได้โดย

 

#ประการแรก

อย่าหนีเข้าป่าไปอยู่คนเดียว

เพราะคนรอบข้างของท่านในสังคม

คือผู้ช่วยเหลือท่านให้หลุดพ้นได้

 

#ประการที่สอง

การรักได้ ให้อภัยเป็น

คือ ปณิธานแห่งการหลุดพ้น

ท่านต้องถือปฏิบัติอย่างจริงจัง

ร่วมกับการมีมหาสติตลอดเวลาในยามตื่น

ทั้งสองสิ่งนี้ท่านจะละเลยไม่ได้

 

3. ท่านต้องรู้ให้ได้ว่า

จิตวิญญาณของท่านมาจากไหน

ใครอนุญาตให้ท่านมาเกิด

มาเกิดเป็นมนุษย์ทำไม

มีหน้าที่ต้องทำอะไรบ้าง

 

เพราะการหลุดพ้นของจิตวิญญาณ

จักต้องมีเป้าหมายที่จะไปชัดเจน

เหมือนลูกธนูที่จะยิงออกไปจากสายธนู

คนยิงต้องรู้ว่าเป้าที่จะยิงนั้นอยู่ตรงทิศไหน

คนยิงก็ต้องเล็งลูกธนูให้ตรงเป้าหมายนั้น

 

เป้าหมายของจิตวิญญาณ

ที่มีผลต่อการหลุดพ้นของท่านทั้งหลายก็คือ

 

การเดินทางกลับออกไปจากเอกภพ

เพื่อกลับบ้านเกิดของจิตวิญญาณของท่าน

เพื่อกลับไปกราบพระผู้ให้กำเนิดจิตวิญญาณ

ผู้ทรงอนุญาตให้จิตวิญญาณท่านมาเกิด

ผู้ที่ทรงรอคอยพวกท่านมายาวนาน

กว่าหกหมื่นแปดร้อยปีเศษแล้วนั่นเอง

 

วิธีง่ายๆก็คือ

ต้องยอมรับว่าจิตวิญญาณท่านเกิดเองไม่ได้

จิตวิญญาณท่านต้องมีผู้ให้กำเนิด

ถิ่นกำเนิดอยู่นอกเอกภพหรืออนันตจักรวาล

จิตวิญญาณต้องผ่านออกไปทางประตูมิติ

ซึ่งทรงเปรียบเป็นประตูคอกแกะเท่านั้น

จะออกไปทางอื่นเหมือนการปีนรั้วเข้าคอก

ด้วยพฤติกรรมเยี่ยงโจรซึ่งไม่สง่างามไม่ได้

 

ที่สำคัญท่านต้องบันทึกพระนาม

ผู้ให้กำเนิดจิตวิญญาณของท่านให้ได้ว่า

พระองค์ทรงพระนามว่า #จิตจักรวาล

พระองค์ทรงประทับอยู่ตรงศูนย์กลางจักรวาล

ซึ่งเป็นทั้งจุดเริ่มต้นและจุดสิ้นสุดของทุกสิ่ง

ที่พระองค์ทรงสร้างขึ้น

 

เพียงแค่ท่านทั้งหลายระลึกถึงพระองค์

ดั่งลูกน้อยเรียกหาพ่อแม่ของตน

พระจิตวิญญาณของท่าน

ก็จะสั่นสะเทือนเชื่อมโยงผ่านสายสะดือ

ระหว่างทารกน้อยกับมารดาผู้ให้กำเนิดแล้ว

 

เพียงเท่านี้

ท่านก็ได้สร้างสามเหลี่ยมกับพระบิดา

เพื่อให้พระองค์ทรงเมตตาฉุดรั้งท่าน

ย้อนกลับคืนขึ้นไปหาพระองค์ได้แล้ว

 

พี่ๆน้องๆที่รักทั้งหลาย

เรามีความจริงที่จะกล่าวต่อท่านทั้งหลายว่า

 

แผ่นดินประเทศไทย....ในปลายยุคนี้

ชนชั้นแกนนำของสังคมและประเทศชาติ

มี #จิตวิญญาณที่หลงมิติ เกี่ยวกรรมต่อกันมา

ถือกำเนิดเกิดบนแผ่นดินนี้ตั้งมากมาย

โดยแต่ละคนพากันมาร้ายมากกว่ามาดี

เพราะมีความอาฆาตแค้นเป็นอาทิ เช่น

 

มาร้ายต่อกัน

มาร้ายต่อประเทศชาติ

มาร้ายต่อศาสนา

มาร้ายต่อพระมหากษัตริย์

 

ซึ่งตัวละครหลักๆมีไม่กี่ตัวดังนี้

 

1. เป็นจิตวิญญาณของคนต่างชาติ

ที่กลับมาเกิดเป็นคนบนแผ่นดินศัตรู

เพื่อแก้แค้นเอาคืน

 

เพราะอดีตชาติตนเคยเป็นเจ้า

แตกทัพใหญ่ออกเป็นเก้าทัพเล็ก

เหมือนการแตกแบงก์ใหญ่ให้เป็นแบงก์เล็ก

กรีฑาทัพขยับเข้าตีเมืองเพื่อนบ้าน

หมายจะขยี้ให้แหลกรานจนสิ้นชาติ

แต่แผนการณ์ผิดพลาดตนกลับเป็นฝ่ายแพ้

จึงถูกตัดหัวประหาร

ลูกเมียทรัพย์สมบัติก็ถูกริบยึดหมดสิ้น

 

เนื่องจากยกทัพไปโจมตีเขาทีไร

ฝ่ายตนแพ้พ่ายจนเสียหายหนักทุกครั้ง

แรงแค้นอาฆาตพยาบาทจึงมีเยอะ

ชาตินี้จึงแฝงตัวมาเกิดเป็นชาติเดียวกับศัตรู

เพื่อมาโกงเอาสมบัติคืนง่ายๆ

เพื่อมาทวงแค้นทุกรูปแบบ

เพื่อจะทำให้แผ่นดินนี้ย่อยยับหายนะ

เหมือนการตีเมืองให้แตกนั่นแหละ

เพื่อจะทำให้แผ่นดินนี้ไร้ซึ่งสันติสุข

 

นอกจากนั้น

พฤติกรรมทำลายสถาบันหลักของชาติ

ของจิตวิญญาณดวงนี้ก็ชัดเจนว่า

ท้าทายบารมีเบื้องสูงอยู่เนืองๆ

เพราะอดีตนั้นกษัตริย์คือจอมทัพนักรบ

ตนถูกตัดหัวยึดทรัพย์เพราะแพ้ศึก

ก็เพราะพ่ายต่อพระปรีชาของกษัตริย์ไทย

เขาจึงเป็นชนชั้นผู้นำที่ทำตัวเป็นชาติหนึ่ง

ขณะที่จิตใจและจิตวิญญาณเป็นชาติอื่น

 

เรื่องโกงชาติตนเองนั้นเก่งทุกทาง

ไม่รักชาติตนเองพร้อมที่จะขายชาติได้

 

พวกนี้เกลียดทหารและกองทัพมาก

เพราะเป็นผู้ที่ทำให้ฝ่ายตนแพ้ศึกรบมาแล้ว

พฤติกรรมการลดทอนอำนาจกองทัพ

พฤติกรรมการทำให้ประเทศชาติอ่อนแอ

จึงฉายความแค้นในอดีตชาติออกมาให้เห็น

 

2. พวกแม่ทัพนายกองและทหารเลว

บริวารของจิตวิญญาณเจ้าที่กล่าวมา

ก็จูงมือกันมาทวงแค้นในชาติสุดท้ายนี้ด้วย

 

การเข้ากันเป็นปี่เป็นขลุ่ยจนน่าแปลกใจ

เพื่อเป็นเครื่องมือของเจ้านาย

ซึ่งทำให้ประเทศนี้มีปัญหาวุ่นวาย

จึงปรากฏให้เห็นกันมาตลอด

 

3. พวกจิตวิญญาณของแม่ทัพนายกอง

และทายาทเจ้าพวกเดียวกันเอง

ที่เคยทำผิดกระบิลเมือง

จนต้องถูกลงโทษรุนแรงเจ็ดชั่วโคตร

ก็พากันกลับมาเกิดในชาตินี้ด้วย

เพื่อหาทางทำลายชาติบ้านเมือง

อันเป็นแผ่นดินเกิดของตนเอง

 

เพราะแค้นมากจนบางคนเมื่อขาดสติ

ถึงกับหลุดปากร้องชวนพรรคชวนพวก

เผาบ้านเผาเมืองของตนเองมาแล้วก็มี

 

พี่ๆน้องๆที่รักแห่งเราทั้งหลาย

 

จิตวิญญาณหลงมิติของผู้คนเหล่านี้

ล้วนเป็นพวกที่น่าสงสารมาก

เพราะไม่สามารถ "ปรับทัศนคติ" ได้

และไม่อาจสร้างจิตสามนึกใหม่ได้แล้ว

แม้ได้รับโอกาสให้มาเกิดเป็นชาติสุดท้าย

เพื่อการ "แก้ไข" มิใช่ "แก้แค้น"

พวกเขาก็เสียโอกาสเพราะขาดสติสำนึก

 

โอกาสแห่งการหลุดพ้นเพื่อกลับบ้าน

จึงเป็นไปไม่ได้เลย

นอกจากจะถูกช่างเท็คนิกระเบิดทิ้ง

และขณะนี้ดูเหมือนว่ากลิ่นสาปความวุ่นวาย

กำลังจะลอยมาให้ปวงประชาอาดูร

กันอีกแล้วหรือนี่

 

เอเมน สาธุ

ป.วิสุทธิปัญญา

21-03-2019