15 มีนาคม 2562

สนทนาประสาจิตจักรวาล 15/03/2019

 #สนทนาประสาจิตจักรวาล

 

พี่ๆน้องๆที่รักแห่งเราทั้งหลาย

เราขอกล่าวความจริงต่อท่านทั้งหลายว่า

 

บัดนี้แผ่นดินโลก

เปรียบได้ดั่งหญิงสาวพรหมจารีสิบคน

ถือตะเกียงของตนออกไป

ยืนรอรับการกลับมาของเจ้าบ่าว

 

โดยในจำนวนสิบคนนั้น

จะเป็นคนโง่ห้าคน

และเป็นคนฉลาดมีปัญญาอีกห้าคน

 

ซึ่งหญิงโง่เหล่านั้น

เป็นคนที่ถือตะเกียงของตน

ออกไปรอรับเจ้าบ่าว

แต่พวกเธอไม่ได้เอาน้ำมันติดตัวไปด้วย

 

ส่วนคนที่มีปัญญา

ก็เอาน้ำมันใส่ขวดไปกับตะเกียงของตนด้วย

เมื่อเจ้าบ่าวมาช้าก็พากันง่วงหาว

แล้วพวกนี้ก็พากันหลับไป

 

เมื่อถึงเวลาเที่ยงคืน

ก็มีเสียงร้องว่า.....

"เจ้าบ่าวมาแล้ว จงออกมารับท่านเถิด"

หญิงพรหมจารีทั้งสิบคน

ก็พากันรีบลุกขึ้นตกแต่งตะเกียงของตน

 

ประดาพวกหญิงโง่

ก็พากันพูดกับพวกที่มีปัญญาว่า

"ขอแบ่งน้ำมันตะเกียงของท่านบ้างสิ

เพราะตะเกียงของเราจวนจะดับอยู่แล้ว"

 

พวกที่มีปัญญาก็กล่าวตอบว่า

"น่ากลัวว่าน้ำมันตะเกียงของเรา

จะไม่พอสำหรับเราและพวกท่านแน่ๆ

ให้ท่านไปหาคนขายน้ำมัน

แล้วขอซื้อสำหรับตัวเองจะดีกว่านะ"

 

ปรากฏว่าระหว่างที่หญิงโง่

กำลังออกไปซื้อหาน้ำมันอยู่นั้น

เจ้าบ่าวที่ทุกคนรอคอยก็เดินทางมาถึง

พวกที่เตรียมพร้อมและรอคอยอยู่แล้ว

ก็พากันก้าวตามเจ้าบ่าว

เข้าไปในงานสมรสนั้นแล้วประตูก็ปิด

 

หลังจากนั้นไม่นาน

หญิงพรหมจารีที่โง่ๆทั้งห้าคน

ที่ออกไปหาซื้อน้ำมันตะเกียงก็กลับมา

จึงช่วยกันเคาะประตูที่ปิดอยู่แล้วร้องว่า

 

"ท่านเจ้าขา...ท่านเจ้าขา.....

กรุณาเปิดประตูให้พวกเราด้วย"

 

ผู้ที่ดูแลประตูบานนั้นท่านตอบว่า

 

"เราขอบอกความจริงกับท่านทั้งหลายว่า

เราไม่รู้จักพวกท่าน พวกท่านเป็นใครกัน

 

เพราะพวกท่านไม่รู้กำหนดวันเวลา

เพราะพวกท่านไม่รู้หน้าที่ของตนเอง

เพราะพวกท่านไม่ใส่ใจเตรียมพร้อม

เพราะพวกท่านไม่รู้คุณค่าเวลาที่ผ่านไป

เพราะพวกท่านไม่รู้คุณค่าแห่งการรอคอย

 

ตะเกียงของพวกท่านจึงไม่มีน้ำมัน

อันหมายถึงในกระโหลกศีรษะของท่าน

เหมือนไม่มีมันสมองอยู่เลย

เมื่อตะเกียงในหัวของท่านไม่มีมันสมอง

ตะเกียงของท่านจึงดับมืดเพราะจุดไม่ติด

ซึ่งหมายความว่าแม้จะมีสมอง

แต่พวกท่านก็จุดไม่ติดคิดไม่เป็น

 

พี่ๆน้องๆที่รักแห่งเราทั้งหลาย

 

ที่จุดไม่ติดคิดไม่เป็นนั้น

เป็นผลสืบเนื่องจากความเหลวไหล

ความไม่เอาไหนไม่เอาถ่านของพวกท่าน

ที่ปล่อยให้คืนวันแห่งการรอคอยเจ้าบ่าวนั้น

มันเนิ่นนานผ่านไปเปล่าๆ

โดยพวกท่านยืนถือแต่ตะเกียงที่ไร้น้ำมัน

อันหมายถึงมีสมองแต่ไม่รู้คิดอยู่เท่านั้น

 

เมื่อถึงเวลาที่เจ้าบ่าวกลับมารับ

เพื่อจะจูงเจ้าสาวพาเข้าสู่ประตูหอ

จึงสื่อสารกันกับเจ้าบ่าวไม่รู้เรื่อง

 

โดยเจ้าบ่าวพยายามชี้แนวทาง

สร้างแนวคิด กระตุ้นจิตสามนึก

และฝึกทักษะการก้าวเดินสู่ประตูนิพพาน

ตามมรรควิถี #จิตจักรวาล เพื่อก้าวผ่าน

ประตู "ด่านนภาลัย" ออกไปจากเอกภพ

 

ด้วยการหมั่นสื่อพระโอวาททุกเดือน

ด้วยการนิพนธ์พระคัมภีร์จิตจักรวาล

ให้ตามอ่านตามเรียนรู้สู่การฝึกฝนตนเอง

แม้กระทั่งการเผยแพร่องค์ความรู้

ผ่านทางเว็บไซต์ เฟสบุ๊ค และยูทูป

และฝึกอบรมธรรมด้วยกระบวนการไซโคโชว์

เพื่อติดอาวุธทางปัญญาพาให้สำนึกบาป

ด้วยปฏิบัติการเหล่านี้อยู่เป็นประจำ

 

แต่ท้ายที่สุดแล้ว

เจ้าสาวฝ่ายโง่คือพวกที่ขาดความพร้อม

เป็นพวกที่ถือตะเกียงแต่ไร้น้ำมัน

จึงมิอาจก้าวตามเจ้าบ่าวได้ทัน

เพราะบานประตูแห่งโอกาสมันปิดแล้ว

เมื่อพวกเธอเหล่านี้กลับมาไม่ทัน

จึงได้แต่เฝ้ารออยู่หน้าประตู

เพราะพวกเธอไม่รู้กำหนดวันเวลา

 

ดังนั้น

แม้งานมงคลสมรสนี้

จัดใหญ่ระดับหนึ่งเดียวใน #อนันตจักรวาล

เพราะว่าคนที่ได้เป็นแขกรับเชิญก็มีมาก

แต่น่าเสียดายนักเมื่อคนที่ได้รับเลือก

ให้ผ่านประตูงานเข้าไปได้นั้นกลับมีน้อย

 

เอเมน สาธุ

ป.วิสุทธิปัญญา

15-03-2019