เราจะกล่าวความจริงต่อท่านทั้งหลายว่า
อันสิ่งแวดล้อมรายรอบตัวท่านนั้น
ล้วนเต็มไปด้วย "สิ่งไร้สาระ" สำหรับท่าน
มากกว่า "สิ่งที่มีสาระ" นับเท่าไม่ถ้วน
ท่านรู้หรือไม่ว่าเพราะ "สิ่งไร้สาระ"
จากสิ่งแวดล้อมรายรอบตัวท่านนี่แหละ
ที่มันทำให้ท่านทั้งหลาย
ต้องกลายเป็น "คนไร้สาระ" กันตลอดมา
สิ่งที่มีสาระสำหรับท่านนั้น
เราหมายถึงสิ่งใด เรื่องใด สถานการณ์ใดก็ตาม
ที่ท่านได้พบพานผ่านเผชิญแล้ว
มันให้คุณแก่ท่าน
มันให้ประโยชน์แก่ท่าน
มันให้ความสุขแก่ท่าน
เป็นต้นว่าถ้าท่านมีปฏิสัมพันธ์กันกับใครแล้ว
พฤติกรรมของเขาทำให้ท่านรู้สึกดี
พฤติกรรมของเขาทำให้ท่านมีความสุข
พฤติกรรมของเขาทำให้ท่านได้รับประโยชน์
นี่ย่อมเป็น "สิ่งที่มีสาระ" สำหรับท่านนั่นเอง
ส่วน "สิ่งที่ไร้สาระ" สำหรับตัวท่านนั้น
เราหมายถึงสิ่งใด เรื่องใด สถานการณ์ใดก็ตาม
เมื่อท่านได้พบพานผ่านเผชิญแล้ว
มันให้โทษแก่ท่าน
มันไร้ประโยชน์สำหรับท่าน
มันทำให้ท่านเกิดทุกข์หมดสุขไม่สนุก
นี่ย่อมเป็น "สิ่งที่ไร้สาระ" สำหรับท่านนั่นเอง
สำหรับผู้ที่ยังคนตนเองให้เป็นมนุษย์ไม่สำเร้จ
มักจะสับสนในบทบาทหน้าที่ของตนเอง
ทั้งสองประการ คือ ......
1.เผชิญใคร สิ่งใด เรื่องใด สถานการณ์ใด
จักต้องเรียนรู้คนนั้น สิ่งนั้น เรื่องนั้น สถานการณ์นั้น
เท่าที่ความสามารถตนเองมีอยู่ให้จงได้
แต่ผู้ที่คนยังไม่สำเร็จ
ก็มักไม่สามารถที่จะเรียนรู้อะไรๆ
ตามบทบาทหน้าที่ของตนเองได้
ที่เรียนรู้กันไม่ได้เพราะไม่รู้ว่า
ตนมีหน้าที่ต้องเรียนรู้
ที่เรียนรู้กันไม่ได้ก็เพราะว่า
คนส่วนใหญ่ยังคิดไม่เป็น
ที่คิดไม่เป็นเพราะได้แต่นึกด้วยจิต
โดยไม่ฝึกคิดด้วยสมองของตนเองเลย
2.เผชิญใคร สิ่งใด เรื่องใด สถานการณ์ใด
ก็จักต้องหยิบยื่นความรักบริสุทธิ์
ให้แก่คนนั้น สิ่งนั้น เรื่องนั้น สถานการณ์นั้น
อย่างเต็มความสามารถของตนเองให้จงได้
ผู้ที่คนยังไม่สำเร็จก็มักไม่สามารถที่จะ
รักใคร รักสิ่งใด รักเรื่องใด รักสถานการณ์ใด
ตามบทบาทหน้าที่ของตนเองได้
ดังนั้น....
พวกท่านที่เป็นคนส่วนใหญ่ทั้งหลาย
จึงมักชอบหยิบเอา "สิ่งที่ไร้สาระ" ของผู้อื่น
เช่น พฤติกรรมขยะของคนรอบข้าง
มาเป็นเงื่อนไขในการสั่นสะเทือน
อารมณ์รู้สึกนึกคิดของจิตท่านเสมอ
แน่นอนว่า...
เพราะมันล้วนเป็นพฤติกรรมขยะของเขา
ซึ่งเป็น "สิ่งที่ไร้สาระ" ของท่านไงล่ะ
เมื่อท่านนำมันมาเป็นเงื่อนไขด้านลบ
โดยยอมให้มันกระทบจิตใจท่านเมื่อไหร่
พวกท่านก็จะพากันสอบตกบททดสอบเหล่านี้เสมอ
ด้วยการต่อสู้ ตอบโต้ ต่อต้าน หลีกเลี่ยงสิ่งที่ไร้สาระ
ซึ่งท่านหยิบมันมาเป็นเงื่อนไขดังว่านี้โดยพลัน
เพราะพวกท่านเก็บกดอดกลั้นกันไม่ไหวนี่แหละ
มันจึงยังผลให้ท่านต้องกลายเป็น
คนที่ไร้สาระสำหรับคนอื่นๆไปทันทีเช่นเดียวกัน
ด้วยเหตุนี้เอง
วันๆหนึ่งพวกท่านจึงสอบตกบททดสอบเช่นนี้เสมอ
เพราะมักหยิบเอาสิ่งที่ไร้สาระสำหรับท่านมาจากผู้อื่น
มาเป็นเงื่อนไขด้านลบของตนเอง
จนก่อชะตากรรมและวิบากกรรมใหม่ๆ
ให้แก่ตนเองกันอยู่ทุกเมื่อเชื่อวัน
เพราะไม่เข้าใจและไม่อาจรู้เท่าทันได้ว่า
ไหนคือสิ่งที่มีสาระ
ไหนคือสิ่งที่ไร้สาระสำหรับท่าน
อีกทั้งยังขาดปัญญาที่จะเรียนรู้ด้วยว่า
ท่านควรที่จะค้นหา......
สิ่งที่เป็นสาระสำหรับท่าน
จากสิ่งที่ไร้สาระของคนอื่นๆ
ในมุมมองของท่านนั้นให้พบ
เมื่อพบแล้วก็ให้นำเอาสิ่งดีๆที่มีสาระที่พบนั้น
มาเติมเต็ม "ความมีสาระ" ให้แก่ตัวท่านเองสืบไป
นี่เพียงแค่ท่านใด....
ปฏิเสธคำกล่าวของเราเหล่านี้
ในทันทีที่ได้อ่านได้รู้
โดยมองว่าทุกถ้อยวจีของเรา
ล้วนเป็นคำกล่าวที่ไร้สาระสำหรับท่านแล้ว
มันก็ยิ่งจะเป็นการปฏิเสธสิ่งที่มีสาระ
เพื่อชี้วัดความเป็นคนที่ไร้สาระของท่านด้วย
เอเมน....สาธุ
ป.วิสุทธิปัญญา
5-05-2015