04 พฤศจิกายน 2555

บั้งไฟพญานาค


อนุญาตให้แชร์เพื่อนำไปถ่ายทอดต่อผู้ที่ต้องการเรียนรู้แบบไม่งมงายได้.....มิใช่ถ่ายทอดสู่พวกที่รู้แล้วรีบงมงาย! เราต้องการให้พวกเธอรู้ไว้เป็นความรู้เท่านั้น ต้องเฉลยเพราะว่ามันสิ้นยุคแล้ว เธอจะได้ไม่เสียเวลาไปค้นคว้าล่าวิญญาณเพื่อการพิสูจน์ให้เสียเวลาตามวิธีคิดแบบจิตมนุษย์น่ะ

เมื่อถึงกาลชำระโลกก่อนวันปิดยุคพลังงานเก่านี้ ชีวิตจำนวนมากทั้งคน สัตว์ และพืช จะพากันล้มตายเป็นเบือ ที่เหลืออยู่น้อยกว่าที่ล้มลงนอนกับพื้นธรณี พญานาคครอบครัวนี้แม้จะทำหน้าที่ยังไม่ครบ 600 ปี ยังมีภาระเหลืออีกกึ่งหนึ่งก็ตาม แต่พวกเขาก็จะต้องทิ้งกายสังขารเหมือนกัน

เหตุที่ต้องละกายสังขารก็เพราะทนทานกับความเหนื่อยยากไม่ไหว เพราะน้ำในแม่น้ำโขงสายนี้ในวันข้างหน้ามันมากเหลือเกิน เพราะแผ่นดินสองฟากฝั่งแม่น้ำโขงตลอดแนวที่ผ่านมาและผ่านไป ส่วนใหญ่จะจมหายอยู่ใต้แผ่นน้ำ พญานาคทั้งครอบครัวต้องช่วยกันสูบน้ำและพ่นน้ำ(เหมือนลูกสูบ) เพื่อช่วยระบายน้ำจำนวนมหาศาลออกสู่ทะเล-มหาสมุทร น้ำจะได้ไม่ท่วมแผ่นดินจนทำให้มนุษย์ในเขตที่ตนรับผิดชอบต้องได้รับทุกข์เวทนา แต่สูบเท่าใดก็ไม่แห้งหาย...จนในที่สุดพวกเขาจะพากันขาดใจตายโดยพลัน....

อย่าห่วงเลย ดวงจิตธรรมญาณของพวกเขาจักได้กลับคืนไปสู่สวรรค์มายาชั้นพรหมตามเดิมอีกครั้ง ด้วยสำนึกใหม่ที่ดีกว่าเก่า ด้วยญาณและฌานบารมีที่สูงกว่าเก่า ด้วยพระเมตตาแห่งองค์จิตจักรวาลและท่านเทพกรพิณเป็นสำคัญ และต่อไปข้างหน้าแม่น้ำโขงสายนี้จะไม่มีบนแผนที่โลกอีกตลอดไป....คงเหลือไว้แค่เพียงตำนานไว้เล่าให้เด็กๆยุคพลังงานใหม่ฟังตามที่เราเปิดเผยไว้ข้างบนนี้เท่านั้น

ป.วิสุทธิปัญญา
4-11-2012
............................................

เรื่องคนเลิกกินเนื้อสัตว์นั้นเธอเข้าใจว่าเป็นเพราะเนื้อสัตว์มีเชื้อโรคและปนเปื้อนรังสี เสมือนถูกบังคับให้เลิกกิน ไม่ใช่เลิกเพราะเมตตาสงสารสัตว์นั้น ถ้าเป็นกรณีก่อนวันปิดยุค ก่อนโลกจะมืดนาน 7 ราตรีนั้น ความเชื่อของเธออาจจะถูกต้องอยู่บ้าง แต่ยังมีคนที่ไม่กินเนื้อสัตว์ในปัจจุบันนี้กับที่กำลังจะเลิกกินเนื้อสัตว์อีกจำนวนมากเช่นกันนะเธอ ที่เขามีจิตสำนึกที่ดีงามมากๆ ส่วนหลังวันชำระโลกแล้วจะเหลือแต่คนที่สำนึกดีที่ไม่กินเนื้อสัตว์ด้วยจิตสำนึกตนเองอยู่เท่านั้น พวกไม่กินเพราะกินไม่ได้สถานการณ์บังคับน่าจะอยู่ในอันตรายเสียแล้วกระมัง
..............................................

ที่พระบิดาสื่อถ่ายทอดความรู้นี้มาให้นักเรียนที่สนใจใฝ่รู้ถามมา ก็เพียงเพื่อตอบสนองความต้องการของผู้ใฝ่รู้เท่านั้น ไม่ได้กำหนดเป้าหมายว่าเมื่อเธอรู้แล้วจะต้องตัดสินความรู้นี้ว่า "จะเชื่อ-ไม่เชื่อ" เพราะพวกเธอไม่มีผู้ใดรู้จริงหรอก ถ้ารู้ไม่จริงหรือว่าไม่รู้อะไรเลยแล้วไปตัดสินความรู้นี้ว่าตนจะเชื่อหรือว่าไม่เชื่อ...นั่นเท่ากับเป็นการแสดงอุตริและงมงายทันที 

ถ้าสิ่งใดเป็นความรู้ใหม่น่าจะฟังหูไว้หูมากกว่าจะชิงปฏิเสธด้วยความไม่รู้ เนื่องจากความรู้ใหม่ที่เรานำมาตอบคำถามผู้ถามนี้ นักเรียนคนไหนเชื่อตามมันก็มิได้ใช้เปลี่ยนแปลงความเป็นคนดี คนเลว หรือความฉลาดและความโง่ของคนๆนั้นแต่เดิมได้หรอก 

ในทางกลับกันคนไหนปฏิเสธความรู้ใหม่นี้ ก็ไม่สามารถที่จะเปลี่ยนแปลงความโง่ ความฉลาด ความเป็นคนดีคนเลวของตนได้อีกเหมือนกัน เพราะความรู้ใหม่ก็คือความรู้ รู้ไว้ดีกว่าไม่รู้

ป.วิสุทธิปัญญา


........................

((()))ตรงความใน ปล.ของหนูนั้นถูกต้องเป็นที่สุดแล้ว...หนูปฏิบัติถูกต้องแล้ว

((()))พญานาคมีจริง เป็นเทพที่ขันอาสาลงมาก็มี ถูกสาปส่งลงมาก็มี เพื่อให้ทำหน้าที่ควบคุมสมดุลน้ำบนโลกมนุษย์ คือ น้ำสาม ดินหนึ่ง ไม่ให้ดินหรือแผ่นดินที่มีน้อยกว่าอยู่แล้ว ถูกน้ำท่วมกลืน ไม่ว่าชั่วคราวหรือถาวร ไม่งั้นมนุษย์จะเดือดร้อน

((()))การที่เธอมีนิมิตถึงอยู่บ่อยๆเป็นเพราะภพชาติอดีต เคยเกี่ยวกรรมกันกับเขามาก่อน เช่น เคยกราบไหว้บูชา เป็นต้น เขาจึงแสดงนิมิตให้เธอรู้เห็นได้ไม่มีอะไรแปลก...จงถือว่าเป็นเรื่องปกติ พวกเขาแม้จิตจะเป็นเทพแล้วแต่ก็ยังต้องสร้างบุญกุศล ต้องนำตนปฏิบัติธรรมสู่การหลุดพ้น คือ นิพพานเหมือนกัน

ป.วิสุทธิปัญญา