ตอบคำถาม: สาธิกา นวด
#Question:
เรียน ท่านอาจารย์ครับ..
ขอเรียนถามว่า..
1. สัตว์ประจำโลกทั้งหลาย
ที่ไม่มีหน้าที่ที่จะทำนิพพาน
จิตวิญญาณของสัตว์ประจำโลกนั้น
จะต้องแบ่งภาคจิตวิญญาณ
ออกมาเป็นจิตหยาบ
ทำหน้าที่ควบคุมเครื่องยนตร์แห่งกรรม
เหมือนมนุษย์หรือไม่ ?
2. คุณสมบัติของจิตวิญญาณ
แก่นแท้ของสัตว์ประจำโลก
กับจิตวิญญาณแก่นแท้ของมนุษย์นั้น
เหมือนกัน หรือ มีคุณสมบัติเทียบเท่ากัน
กับจิตวิญญาณของมนุษย์หรือไม่ ?
ขอบพระคุณครับ
#Answer:
1.เพราะสัตว์ประจำโลก
มิได้มีหน้าที่ทำสามเหลี่ยมกับพระบิดา
พวกเขาจึงแค่มีเพียงลำตัวขนานพื้น
โดยศีรษะจะยื่นไปข้างหน้าเท่านั้น
ผิดกับมนุษย์โลกในสภาวะปกติ
มีหน้าที่ต้องทำสามเหลี่ยมกับพระบิดา
พระองค์จึงทรงกำหนดสร้างให้
มีลำตัวตั้งฉากกับพื้นเสมอ
ยกเว้นตอนนอนหลับพักผ่อนเท่านั้น
ลำตัวจึงจะขนานกับพื้น
การที่พระองค์ทรงกำหนดให้
"สัตว์ประจำโลก" มีลำตัวขนานพื้น
ก็เพราะว่าพวกเขาไม่ต้องนิพพาน
หมายถึงเมื่อสัตว์นั้นๆตาย
จิตวิญญาณพวกเขาก็ไม่ต้องกลับบ้าน
ไม่ต้องกลับคืนไปหาพระบิดา
เพราะว่าต้องย้อนมาเกิดเป็นสัตว์นั้นอีก
พวกเขาจึงมีแต่สัญชาตญาณ
ที่ควบคุมกำกับการโดยจิตวิญญาณ
เพื่อการดำเนินชีวิตเท่านั้น
ขณะที่มนุษย์เมื่อตายแล้ว
มีหน้าที่นำพาจิตวิญญาณกลับบ้าน
ต้องกลับไปกราบพระบาทพระบิดา
ศีรษะที่มีจิตวิญญาณสถิตย์ประทับอยู่
จึงต้องตั้งฉากยกสูงขึ้นสู่ฟ้า
เพื่อเชื่อมโยงกับพระบิดา
ทำสามเหลี่ยมทางจิตวิญญาณกับพระองค์
แต่เนื่องจากว่าตั้งแต่เด็ก
จนกว่ามนุษย์คนนั้นจะเติบโตเป็นผู้ใหญ่
จิตวิญญาณที่มาเกิดใหม่ในแต่ละคน
จักต้องผ่านการเรียนรู้ที่จะใช้จิตปัญญา
ในบริบทของมนุษย์กันค่อนข้างยาวนาน
ซึ่งบทเรียนและบททดสอบที่ต้องเผชิญ
ในชีวิตประจำวันของแต่ละคนนั้น
มันมีทั้งบทดีและบทร้ายมากมาย
ถ้าให้จิตวิญญาณผู้บริสุทธิ์ผุดผ่อง
ขับเคลื่อนเครื่องยนต์แห่งกรรมมนุษย์เอง
โอกาสเสี่ยงที่จะทำให้จิตวิญญาณป่วย
ด้วยอาการหลงมิติคือสั่นสะเทือนผิดความถี่
ไปเป็นคลื่นหยาบๆแทนคลื่นบวกสูงสุด
จักมีความเป็นไปได้สูงยิ่ง
ด้วยเหตุที่พระบิดาทรงรักและห่วงใย
จิตวิญญาณมนุษย์บุตรของพระองค์ว่า
จะไม่สามารถคืนกลับบ้านคือนิพพานได้
ถ้าจิตวิญญาณป่วยด้วยอาการหลงมิตินี่แหละ
จึงทรงอนุญาตให้จิตวิญญาณแก่นแท้
แบ่งภาคตนเองออกมาเป็นจิตมนุษย์
ที่พวกท่านเรียกว่า "จิตหยาบ"
เพื่อให้ทำหน้าที่แทนในการเผชิญหน้า
กับบทดสอบและบทเรียนโลกทั้งหลาย
เพื่อปกป้องพระจิตวิญญาณไว้ก่อน
เพราะเหตุนี้เอง
มนุษย์ทุกคนจึงต้องมีทั้งจิตหยาบ
และจิตวิญญาณผู้เป็นตัวตนแก่นแท้
ทำหน้าที่ร่วมกันในบทบาท #คนสองมิติ
ขณะที่สัตว์ประจำโลกไม่จำเป็นต้องมี
Answer:
2.คุณสมบัติของจิตวิญญาณมนุษย์
กับคุณสมบัติของจิตวิญญาณสัตว์นั้น
เหมือนกันและต่างกันหลายประการ
ที่้เหมือนๆกันก็คือ
เป็นกล่องพลังงาน
ที่มีรูปธรรมเป็น 6 เหลี่ยมมุมเช่นกัน
เป็นกล่องพลังงาน
ที่ต้องเหวี่ยงหมุนรอบตัวเองตลอดเวลา
เพื่อรักษาสมดุลของตนเองเอาไว้
เป็นกล่องพลังงาน
ที่ภายในมีคลื่นความถี่หลายๆย่านความถี่
สั่นสะเทือนลดเลี้ยวเกี่ยวพันกันอยู่
อย่างลงตัวกันตลอด
เพื่อสร้างพลังอำนาจในตนเองไว้เสมอ
ส่วนคุณสมบัติด้านที่ต่างกันก็คือ
จิตวิญญาณมนุษย์สามารถผลิตสร้าง
พลังแห่งความรักที่เป็นคลื่นไฟฟ้าแม่เหล็ก
ได้ในปริมาณมากไม่มีอั้น
เพราะมีจิตหยาบเป็นอิสระในการขับเคลื่อน
พลังงานบวกคือความรักจากจิตหยาบ
ที่สร้างแรงสั่นสะเทือนให้จิตวิญญาณ
ผลิตสร้างพลังงานไฟฟ้าด้านบวกนั้น
จะแปรตามแรงสั่นสะเทือนด้านบวก
ของจิตหยาบเมื่อเผชิญกับ
บททดสอบจิตสำนึกนั้นๆเป็นสำคัญ
มันจึงมีค่าไม่คงที่
ซึ่งสัตว์ประจำโลกทั้งหลาย
เขาจะรักกันได้ด้วยสัญชาตญาณ
ซึ่งเป็นคุณสมบัติทางจิตวิญญาณได้อยู่แล้ว
พลังงานด้านบวกที่เขามอบให้โลก
จึงเป็นพลังงานไฟฟ้าแม่เหล็กด้านบวก
ที่มีค่าคงที่เท่ากันตลอดเวลา
ดังนั้น
เราจึงขอกล่าวความจริงให้ท่านรู้ว่า
สัตว์ประจำโลกมาเกิดบนโลกก่อนมนุษย์
พวกเขาเป็นจิตวิญญาณพี่ๆน้องๆของท่าน
ซึ่งมีพระบิดาผู้ให้กำเนิดพระองค์เดียวกัน
เข้ามาเกิดบนโลกเสรีนี้จากที่เดียวกัน
เข้ามาทำหน้าที่รักกันและรักโลก
เพื่อช่วยกันใช้จิตวิญญาณของพวกเขา
ผลิตสร้างพลังงานความรักให้โลก
เช่นเดียวกันกับมนุษย์อย่างพวกท่าน
เหตุที่พระบิดา
ยังต้องส่งพวกท่านมาเกิดเป็นมนุษย์
ก็เพราะน้ำหนักมวลบนโลกมากขึ้น
ลำพังสัตว์ด้วยกันมีความรักให้โลกไม่พอ
ทำให้โลกเหวี่ยงหมุนได้ไม่สมดุล
จึงต้องส่งจิตวิญญาณพวกท่านมาเกิด
เพื่อเติมเต็มส่วนที่ขาดนั่นแหละ
พวกท่านที่มาเกิดเป็นมนุษย์
เมื่อคิดถึงพระบิดาก็สามารถกลับบ้านได้
แต่สัตว์ทั้งหลายไม่มีโอกาสกลับ
แม้จะคิดถึงพระบิดาแห่งตนมากเพียงใด
เพราะขันอาสาว่าจะมาเป็นสัตว์ประจำโลก
ดังนั้น
จงอย่าฆ่าสัตว์ตัดชีวิตพวกเขาเลย
อย่าเบียดเบียนรังแกข่มเหงพวกเขาเลย
พวกเขาด้อยโอกาสและฉลาดน้อยกว่า
พวกเขาจึงเป็นสัตว์ที่ท่านสมควรมีเมตตา
มากกว่าจะเข่นฆ่าไล่ล่ามาแกงกิน
ที่สำคัญคือพวกเขาเป็นพี่ๆน้องๆของท่าน
มีพ่อผู้ให้กำเนิดพระองค์เดียวกัน
พวกท่านยังจะทำร้ายกันเองกันอีกทำไม
อย่าใจดำอำมหิตคิดร้ายต่อกันอีกเลย
พระบิดาทรงเสียพระทัยมาก
ที่ทรงเห็นลูกๆอย่างพวกท่าน
เพียงมีกายสังขารแตกต่างกันเท่านั้น
ก็ห้ำหั่นบั่นคอเอาเลือดเนื้อมากินกันได้แล้ว
โดยอ้างว่าพวกเขาเกิดมา
เพื่อจะเป็นอาหารของพวกท่าน
เราถามจริงๆเถอะ
สัตว์ตัวไหนที่มันบอกท่านเช่นนั้น
ท่านเคยได้ยินสัตว์ตัวไหนอนุญาต
เห็นดีเห็นงามให้ท่านฆ่าแกงพวกเขาบ้าง
ช้างม้าวัวควายตัวใหญ่กว่าท่าน
ทำงานหนักได้มากกว่าท่านที่เป็นมนุษย์
เขากินแต่ยอดไม้ใบหญ้าและธัญพืช
เขาก็แข็งแรงสดชื่นอายุยืนยาวได้
โดยไม่ต้องไล่ล่าฆ่าสัตว์อื่นกินเป็นอาหาร
ใยพวกท่านกินเนื้อสัตว์กินโปรตีนมากมาย
จึงเจ็บป่วยด้วยร่างกายไม่แข็งแรงบ่อยๆ
แถมยังอายุสั้นอีกต่างหากด้วย
เอเมน สาธุ
ป.วิสุทธิปัญญา
18-04-2018