27 มีนาคม 2559

มรดกบาป จากพ่อแม่


เราจะกล่าวความจริงต่อท่านทั้งหลายว่า

แม้กรรมดีกรรมชั่ว เป็นของตัวเอง 
ใครทำใครได้ก็จริง
แต่ก็มีข้อยกเว้นว่าพ่อแม่ลูก
จะอยู่นอกเหนือกฎเกณฑ์นี้

เพราะดวงจิตธรรมญาณ
ของผู้ที่เป็นพ่อแม่ลูกกันนั้น
จะมีความคล้ายคลึงกัน
ด้านคุณสมบัติทางจิตวิญญาณ
หรือมีความคล้ายคลึงกันด้านบุคลิก

หมายความว่า 
ถ้าพ่อแม่สั่นสะเทือนจิตสาม(สำ)นึก
เป็นแบบใดแล้วก่อให้เกิดผลกรรมแบบใดขึ้นมา
มันจะส่งผลให้จิตวิญญาณของลูก
เกิดการสั่นสะเทือนไปตามนั้นด้วยเสมอ
ทั้งๆที่จิตวิญญาณของลูก
มิได้เกี่ยวข้องอะไรด้วยเลย
แต่ก็ถือเป็นผู้เกี่ยวกรรม
ทำผิดบาปนั้นไปด้วยแล้ว

ถ้าพ่อแม่ก่อกรรมดี 
ลูกๆก็จะได้รับผลกรรมดีนั้นตามไปด้วย
เช่น พ่อแม่ให้ธรรมทานแก่ผู้อื่น 
ให้ปัญญาแก่ผู้อื่นเป็นทานอยู่เนืองๆ
มันจะส่งผลให้บุตรของพ่อแม่นั้น
เป็นเด็กฉลาดและเป็นเด็กดี
รู้จักละอายต่อบาปได้เอง
โดยพ่อแม่ไม่ต้องปากเปียกปากแฉะเลย

ถ้าพ่อแม่ก่อกรรมชั่ว ลูกๆของตัว
ก็จะได้รับผลกรรมด้านชั่วนั้นตามไปด้วย
เช่น ถ้าพ่อแม่เป็นชาวนา 
ใช้บ่วงแร้วดักลิง
ที่ชอบมากินข้าวเปลือกในนา
ให้เสียหายเอาไว้ได้

จึงใช้มีดตัดนิ้วมือลิงตัวนั้นทิ้ง
ด้วยความโกรธแค้น
แล้วปล่อยลิงเข้าป่าไป
ให้ได้รับทุกข์ทรมาน

ลิงบางตัวที่ถูกจับได้
ก็จะใช้มีดผ่าปากสองข้างของลิง
จนปากฉีกโลหิตไหลนอง
ได้รับความเจ็บปวด
แล้วปล่อยตัวเข้าป่าไป เจ้าลิงตัวนั้นได้รับทุกข์ทรมานมาก

แม้วันหนึ่งข้างหน้าลิงที่ถูกตัดนิ้วมือจะหายเจ็บ
แต่ก็พิการไปตลอดชีวิต

แม้วันหนึ่งข้างหน้าลิงที่ถูกกรีดผ่าปาก
มันจะหายจากบาดแผลเหล่านั้น
แต่มันก็จะเจ็บแค้นฝังใจ
เพราะเจ็บปากกินอาหารไม่ได้ไปหลายวัน
ต้องอดหยากหิวโหย

เวรกรรมนี้มันจะส่งผลให้ครอบครัวนี้
ถ้ามีบุตรหลานเมื่อไหร่
จักต้องมีใครบางคนปากแหว่ง 
หรือบุตรหลานบางคนนิ้วกุดแน่นอน
เพราะผลกรรมด้านลบ
มันเป็นของมันแบบนี้เสมอ


ใครเป็นพ่อแม่
จึงควรก่อกรรมดีเอาไว้ให้มาก
ผลกรรมดีๆจะสะท้อนกลับไปสู่
บุตรหลานของท่านได้บ้าง

หากวันๆเป็นพ่อแม่คนแล้ว
ยังก่อกรรมทำชั่วอยู่อีก
ระวังผลกรรมนั้นจะกลายเป็นมรดกบาป
ตกทอดไปถึงลูกหลานที่ไม่รู้อิโหน่อิเหน่ได้นะ

เอเมน สาธุ
ป.วิสุทธิปัญญา

27-3-2016